ชาวไร่อ้อยหันมาใช้เครื่องจักรเกี่ยวเก็บใบอ้อย หลังทางจังหวัดตั้งค่าหัวมือเผา รายละ 5 หมื่นบาท
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 นายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมืองเลย ลงตรวจพื้นที่ไร่อ้อย ในตำบลนาดินดำ อ.เมือง จ.เลย เป็นตำบลที่มีการปลูกอ้อยมากที่สุดในเขตอำเภอเมือง หลังมีการร้องเรียนของชาวบ้านมีการเผ่าอ้อยทุกวันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย แต่มีชาวไร่อ้อยบางส่วนที่หันมาใช้เครื่องจักรในการเก็บเกี่ยวผลผลิต และเก็บใบอ้อย ขายเข้าโรงงานน้ำตาล หลังจากที่ทางจังหวัดได้ออกมาตรการเข้ม พร้อมได้จัดตั้งหน่วยพื้นเร็วสนธิกำลัง ทั้งตำรวจ ปกครอง ออกตรวจตรา และตั้งค่าหัวมือเผารายละ 50,000 บาท
นายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมืองเลย เผยว่า วันนี้ได้มาดูไร่อ้อยต้นทาง เนื่องจากว่าพื้นที่ในอำเภอเมืองเลย มีการปลูกอ้อยประมาณ 16,000 ไร่ ส่วนมากจะปลูกในตำบลนาดินดำ ตำบลน้ำสวย ในขณะนี้ใน 2 ตำบลในเขตอำเภอเมืองที่เป็นปัญหามากสุด ในเรื่องของการเผาอ้อย ซึ่งทางโรงงานรับซื้ออ้อยสด 70% และยังรับซื้ออ้อยเผา 30 % ในขณะนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ส่วนหนึ่งจากการเผาอ้อยสด และส่วนหนึ่งตัดอ้อยสดและได้เผาใบอ้อยในไร่ ซึ่งก็ยังก่อเกิดมลพิษ และสร้างความรำคาญให้เพื่อนบ้านใกล้เคียง แต่ได้มีชาวไร่อ้อยอีกส่วนหนึ่งได้ตระหนักถึงความเดือดร้อน จึงได้จ้าง หรือให้รถเข้ามาเก็บเกี่ยวใบอ้อยแห้งและสดฟรีในไร่ เพื่อขายให้กับโรงงานและอัดเป็นอาหารสัตว์ เริ่มมีการใช้วิธีนี้มากขึ้น หลังจากที่ทางจังหวัดเลยได้ประชาสัมพันธ์ และให้เจ้าหน้าที่ในการตรวจตรา
ด้านนายสุริยา สนิทสตรี เจ้าของรถอัดหญ้า กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับงานเก็บใบอ้อยตามไร่อ้อย ช่วงนี้ต้องจองคิวรับงาน หลังจากที่ทางจังหวัดเลยได้ออกประกาศใครแจ้งเบาะแสจับมือเผา และถูกดำเนินคดี ให้คดีละ 50,000 บาท ได้มีชาวบ้านส่วนหนึ่งกลัวถูกจับไม่กล้าเผา จึงให้ไปเก็บเกี่ยวใบอ้อยในไร่ บางรายจ้างไปเก็บ บางรายให้ไปเก็บฟรี อัดเป็นก้อนแล้วส่งเข้าขายโรงงานน้ำตาล บางส่วนเก็บไว้เป็นอาหารสัตว์ ถือว่าการรณรงค์การเผาอ้อย ชาวบ้านบางส่วนกลัวและให้ความร่วมมือกับทางการ แต่ยังมีอีกส่วนที่มักง่ายเผาอย่างเดียว ตนเอาก้อนใบอ้อยขายให้โรงงานน้ำตาลกิโลกรัมละ 2 บาท ก้อนหนึ่งน้ำหนักประมาณ 200 กว่าโล วันๆหนึ่งตนทำได้ประมาณ 40-50 ก้อน คิดแล้วเสียดายที่ชาวไร่เผาใบอ้อย เหมือนกับเผาเงินของตนเองไป
