จากสถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดเลย ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในหลายพื้นที่ได้เริ่มขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เนื่องจากแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาไดกิดแห้งขอด โดยเฉพาะอย่างที่เขตเทศบาลตำบลปากชม อำเภอปากชม และพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งการประปาส่วนภูมิภาค สาขาเชียงคาน ไม่สามารถเดินเครื่องผลิตน้ำจ่ายให้กับประชาชนได้ เนื่องจาก แหล่งน้ำดิบเดิม ระดับน้ำลดลงจนไม่สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้ได้
ล่าสุดวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ที่จุดฝายน้ำล้นห้วยชม อ.ปากชม จ.เลย ได้มีศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี ได้นำเครื่องสูบน้ำระยะไกล มาติดตั้ง เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำโขงเข้ามาเติมน้ำลงคลองในลำน้ำชม ไว้สำหรับนำมาใช้ทำเป็นน้ำดิบ เพื่อผลิตน้ำประปาให้บริการผู้ใช้น้ำในเขตพื้น ที่ อำเภอปากชม ให้มีน้ำเพื่อการอุปโภค – บริโภคอย่างเพียงพอ เนื่องจากลำน้ำชมได้เกิดแห้งขอดไม่สามารถผลิตทำประปา ในเขตเทศบาลตำบลปากชม ในอำเภอปากชม ที่ มี 1,263 ครัวเรือน ที่ใช้น้ำจากการประปา
ว่าที่ ร.ต.เกริกเกียรติ จางจัน นายช่างเครื่องกล ปฏิบัติงานเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี ได้เปิดเผยว่า ทางศูนย์ ได้รับการประสานงานจากการประปาส่วนภูมิภาคอำเภอเชียงคาน และอำเภอปากชม โดยวันนี้ได้มาช่วยนำเครื่องสูบน้ำมาช่วยสูบน้ำจากแม่น้ำโขง ขึ้นมาเติมลำน้ำชม ซึ่งเห็นแหล่งน้ำดิบไว้สำหรับผลิตน้ำประปา ซึ่งแหล่งน้ำต้นทุนได้เหลือน้ำผลิตเพียง 20 วัน จึงร้องขอไปทางศูนย์ฯ เพื่อนำเครื่องสูบน้ำมาช่วย เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค โดยเครื่องสูบน้ำระยะไกลครั้งนี้จะสามารถสูบน้ำวันละได้ 10 ชั่วโมง เฉลี่ยวันละ 1,800 ลูกบาศก์เมตร จะสูบทั้งหมด 30 วัน
คาดว่าจะได้น้ำดิบผลิตน้ำประปา จำนวน 54,000 ลูกบาศก์เมตร โดยได้ต่อท่อสูบส่งน้ำ ขนาด 6 นิ้ว จากแม่น้ำโขง ถึงจุดประตูระบายน้ำของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาเชียงคาน หน่วย อำเภอปากชม ระยะทาง 600 เมตร โดยการผลิตน้ำประปา ที่อำเภอปากชม อยู่ประมาณวันละ 1,200 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำขังเหนือประตูระบายน้ำ ระยะทาง 5 กิโลเมตร จะผู้ได้รับประโยชน์ประกอบด้วย ส่วนราชการ หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ โรงพยาบาล ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลปากชม