เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 63 ที่หน้าสภานีตำรวจภูธรเมืองเลย จ.เลย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.4 พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงษ์สุเมธ รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.วิบูลย์ วงศ์ก้อม ผบก.ภ.จว.เลย พ.ต.อ.วรการ บุญประคอง พ.ต.อ.ยุทธวัฒน์ โชคชัย รองผบก.ภ.จว.เลย พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เมืองเลย ได้ร่วมแถลงข่าว 2 คดี จับกุมผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน การจับกุมแก็งค์คนร้ายต่างชาติหลอกเอาบัญชีแล้วทำการโอนเงินออกจากบัญชี โดยยึดทรัพย์ได้กว่า 40 ล้าน
ในคดีที่ 1 จากคนร้ายได้ร่วมกันลงมือฆ่านาย วัลลภ ชมชน เกิดเหตุในพื้นที่ สภ.หนองหิน เมื่อวันที่ 21 ก.พ. หลังจากก่อคดีผู้ต้องหาได้พยายามหลบหนี ตำรวจได้ออกติดตามไล่ล่าอย่างกระชันชิด และตั้งด่านทุกเขตในพื้นที่จังหวัดเลย ต่อมาวันที่ 28 ก.พ. ตำรวจ สภ.ภูหลวง จ.เลย ได้ตั้งด่านสกัดคนร้าย เมื่อคนร้ายนั่งรถกระบะ เมื่อเห็นด่านตำรวจ ได้ใช้อาวุธสงคราม อาก้า ยิงใส่ตำรวจกำลังตั้งด่านสกัด ทำให้สตอ.ประทีป คำสุเรศ ถูกยิงที่บริเวณขา ได้รับบาดเจ็บ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ล่าจนจับกุมได้ทั้งหมดจำนวน 6 คน
โดยมีนายทักษ์ ทาสังข์ อายุ 22 ปี ต.หนองบัวใต้ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู และนายธีระศักดิ์ ศรีวันคำ อายุ 22 ปี ต.ทรัพย์ไพวัลย์ อ.เอราวัณ จ.เลย ทั้งคู่ให้การสารภาพ ว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิ่งคนตาย และยิงตำรวจพยายามแหกด่านหนี โดยสารภาพอีกว่า ขณะลงมือยิงนายวัลลภ ชมชน ได้ถ่ายวีดีโอตอนที่ลงมือฆ่า เพื่อให้นายทุนพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ดูผลงาน เนื่องจากรับงานลงมือฆ่าในราคา 120,000 บาท สาเหตุมีปัญหาขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวกับค้ายาเสพติด โดยได้ยึดปืน อาวุธพกสั้น ขนาด 38 ไม่มีเลขทะเบียนปืน จำนวน 1 กระบอก บรรจุกระสุนปืนในโม่ จำนวน 6 นัด อาวุธปืนลูกซองขาว ขนาดเบอร์ 12 ไม่มีเลขทะเบียนปืน จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 2 นัด อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติกดัดแปลงลำกล้อง สำหรับกระสุน.380 มม.จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนอาก้า เอเค 47 จำนวน 1 กระบอก รถยนต์กระบะญี่ห้อนิสสัน สีบรอนเงิน ทะเบียน ผน 1498 อุดรธานี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน
ส่วนคดีที่ 2 สืบจากมีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย ว่า ได้สั่งซื้อสินค้าผ่าน FACEBOOK ชื่อบัญชี “Lalabell shop” ซึ่งประกาศขายเสื้อผ้า และสินค้าอยู่หน้าเพสบุ๊ค เมื่อมีการโอนเงินให้แล้วกับไม่ได้รับสินค้า จึงได้เปิดหน้าเฟสบุ๊คชื่อ “คนโกง บัญชี ออนไลน์” และได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ”Mekphayap Parada” แฝงตัวเข้ามาและหลอกถามการโอนเงิน และได้แอบอ้างเป็นพนักงานธนาคาร จนได้หลงเชื่อ กรอกหมายเลขบัญชี เอารหัส OTP -ONE TIME PASSWORD เพื่อเข้าควบคุมบัญชีของผู้เสียหาย ทำให้เงินบัญชีหายไปหมด
จนเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบติดตามและทราบเป็นขบวนการใหญ่ จึงได้ขอหมายจับที่ศาลจังหวัดเลย จับนาย MRTUNG KAH SOON อายุ 29 ปี สัญชาติมาเลเชีย และภรรยาเป็นคนไทยชื่อ นางสาวโอคริสต์ ตุง อายุ 33ปี โดยทั้งคู่พักอาศัอยู่ที่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในเขตบึงกุม กทม .จึงได้เข้าจับกุมพร้องกับยึดทรัพย์ เงินสดกว่า 10 ล้านบาท รถยนต์หรู 2 คันและอายัดเงินในบัญชีธนาคารกว่า 10 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดิน มูลค่า 8 ล้าน รวมทั้งสิ้น 40 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าได้มาจากฉ้อโกงประชาชนหลายรายทั่วทั้งประเทศ จึงได้ตั้งข้อหาความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเคอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันบิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลอันป็นเท็จ โดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
จากการสืบสวนพฤติกรมและพยานหลักฐานที่ทำการตรวจค้นชื่อได้ว่า มีประชาชนอีกจำนวนมากที่ได้ถูกคนร้ายกลุ่มนี้หลอกลวงโดยใช้วิธีคล้ายกัน ซึ่งอาจแฝงมาให้ความความช่วยหลือในฐานะพลมืองดี และแสดงตัวเป็นธนาคารพาณิชย์อื่นๆ อีก จึงฝากไปยังพี่น้องประชาชนระมัดระวังในกาทำธุระกรรมต่างๆให้รอบคอบ รัดกุม หากพี่น้องประชาชนที่ได้ถูกหลอกลวงในรูปแบบดังกล่าว ทั้งที่ได้แจ้งความร้องทุกข์แล้วและยังไม่ได้มีการแจ้งความร้องทุกซ์ ให้ติดต่อไปยังพนักงานสอบสวนท้องที่รับผิดชอบเพื่อจะได้ทำการสอบสวนต่อไป