เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 63 ร.ต.ท.โป๊ะ มะระวัง หัวหน้าสายตรวจ ประจำป้อมมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ได้รับแจ้ง มีเหตุคนพกอาวุธคล้ายปืน เดินขึ้นลงไปมาอาคาร 8 ชั้น ซึ่งเป็นตึกทำงานของอธิการบดี สอบถามหาและจะขอพบอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎเลย และลำตัวเหมือนกับพกอาวุธเหน็บไว้ข้างเอว พูดจาวกวนไปมา ทำให้นักศึกษา และอาจารย์ที่ถูกถามตกใจกลัวว่าจะเกิดเหตุร้าย ได้วิ่งลงตึกกันอย่างอลม่าน พร้อมกับข่าวลือมีคนพกอาวุธปืนเดินพล่านถามหาอธิการบดี จึงได้ประสาน ร.ต.อ.เหมรักษ์. วงษ์เหลา ร้อยเวร สภ เมืองเลย พร้อมกำลังเสริม ตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ
เมื่อเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับกำลังเสริมประมาณ 10 นาย เข้าระงับเหตุบริเวณชั้น 1 ตึกอธิการบดี 8 ชั้น พบผู้ก่อเหตุมีซองอาวุเหน็บตุงไว้ที่เอว ทราบชื่อนางโสมสอางค์ พันทุ่ม อดีตอาจารย์คณะวิทยาการจัดการ จึงได้เข้าเกลี้ยกล่อม พร้อมข้อให้วางอาวุธก่อน ขณะเกลี้ยกล่อมอยู่ตำรวจได้เข้าชาร์จตัว พบว่าอาวุธเป็นมีดขนาดยาว 6-7 นิ้ว
จากการสอบถาม นางโสมสอางค์ พันทุ่ม อดีตอาจารย์คณะวิทยาการจัดการ ซึ่งมีข้อพิพาทกับมหาวิทยาลัย อยู่ ซึ่งก่อนนี้นางโสมสอางค์ พันทุ่ม นั้น เป็นอาจารย์อยู่ในมหาวิทยาลัยราภัฎเลย หลังจากถูกให้ออกจากราชการกว่า 10 ปีแล้ว แต่นางโสมสอางค์ พันทุ่ม ยังคงดื้อดึงอาศัยอยู่ที่บ้านพักมหาวิทยาลัยจนถึงปัจจุบันและมีข้อพิพาทกับคนใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นครู นักการภารโรง เพื่อนบ้าน และปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยได้ตัดไฟตัดน้ำ แต่ก็ยังอยู่ที่บ้านพัก แบบไม่มีไฟมีน้ำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปยังสถานีตำรวจย่อยจุดราชภัฏเลย เพื่อทำการสอบสวน แต่อดีตอาจารย์ อยู่ในอาการเฟ้อ ไม่สามารถสงบสติได้ เพียงแต่พูดสั้นๆ ไปมาว่า ต้องการไปพบอธิการบดีหรือรองอธิการบดี อย่างเดียว เพื่อขอความเป็นธรรม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งข้อหา พกอาวุธมีดในที่สาธารณะโดยไม่รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย เพื่อดำเนินคดีต่อไป