เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยนายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายสัมพันธ์ คูณทวีลาภผล นายกเทศมนตรีเมืองเลย รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเลย ขนส่งจังหวัดเลย นายอำเภอเมืองเลย สาธารณสุขจังหวัดเลย สาธารณสุขอำเภอเมืองเลย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการคัดกรอง ณ บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดเลย ซึ่งผู้โดยสารที่เดินด้วยรถประจำทางเข้าสู่จังหวัดเลย พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่มาตั้งจุดวัดไข้ประชาชาชนทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดยกำหนดให้รถทุกคันต้องเข้าจอดในช่องทางที่กำหนด ผู้โดยสารที่ลงจากรถ ต้องยืนระยะห่าง 1-2 เมตร เข้าคิววัดไข้ และรับเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ซึ่งช่วงนี้มีประชาชนคนไทย และแรงงานจาก สปป.ลาว เดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก หลังจากทางราชการมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปิดกิจการ ร้านค้า สถานบริการ ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดหัวเมืองใหญ่
หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยได้ร่วมกับเทศบาลเมืองเลย สถานีขนส่งจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองเลย และเหล่ากาชาดจังหวัด นำสติ๊กเกอร์ข้อความ “ห้ามนั่ง” ไปปิดไว้ตามเก้าอี้ชานชาลา เว้นห่างกัน 1 ที่นั่ง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคโควิด-19 พร้อมทำความสะอาด ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณสถานีขนส่ง
ส่วนนายกเหล่าการชาดจังหวัดเลยพร้อมด้วยคณะ มอบหน้ากากอนามัย พร้อมข้าวกล่อง ขนมและน้ำดื่ม นำไปแจกให้ผู้โสยสารทั้งชาวไทย และลาว ที่มานั่งรอรถ โดยเฉพาะผู้โดยสารจาก สปป.ลาว กลับจากกรุงเทพ ไม่ทราบว่า รถโดยสารหลวงพระบาง เมืองเลย หยุดบริการ ผู้โดยสาร สปป.ลาวส่วนใหญ่จึงได้เหมารถและโดยสารรถประจำทางเพื่อโดยสารไปอำเภอท่าลี่ เพื่อจะข้ามกลับประเทศ ที่ด่านนากระเซ็ง ซึ่งได้มีคำสั่งปิดไปแล้ว แต่ยังคงอนุญาตให้ประชาชน สปป.ลาว ข้ามกลับประเทศได้