เมื่อวันที่ 24 เมษายน 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดบ้านหนองผำ หมุ่ที่ 3 ตำบลนาดินดำ อำเภอเมืองเลย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยนางวรจิตร์ ปัญญาดี คลังจังหวัดเลย นายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมืองเลย ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบผู้ขอทบทวนสิทธิ์ สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชย 5,000 บาท เริ่มลงพื้นที่สำรวจวัดบ้านหนองผำ หมุ่ที่ 3 ตำบลนาดินดำ เป็นแห่งแรก จากนั้นจะไปตรวจสอบผู้ขอทบทวนสิทธิ์ ในต่างอำเภอจนครบ 14 อำเภอ
นางวรจิตร์ ปัญญาดี คลังจังหวัดเลย กล่าวว่า สำนักงานคลังจังหวัดเลย ได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ออมสิน และ ธกส. จะออกให้บริการพี่น้องประชาชนในการทบทวนสิทธิ์การขอรับเงินชดเชยผู้ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ที่ได้ลงทะเบียนไว้ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม เป็นต้นมา ส่วนหนึ่งก็ได้รับเงินเยียวยาไปแล้ว อีกส่วนยังไม่ได้รับ ตรงนั้นเนื่องจากข้อมูลอาจจะไม่สมบูรณ์ หรือว่ากระทรวงการคลังยังไม่จ่ายเงินให้กับท่าน ทางกระทรวงการคลังจึงได้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ทบทวนสิทธิ์ โดยได้ให้ลงทะเบียน www.เราไม่ทิ้งกัน.com และได้มีประชาชนในจังหวัดเลยได้ยืนขอทบทวนสิทธิ์ ในเบื้องต้นไปแล้ว 80,000 กว่าราย และคาดว่าจะขอทบทวนสิทธิ์เพิ่มขึ้นอีก
เมื่อได้ลงทะเบียนไปแล้วทางกระทรวงการคลังก็จะส่งเจ้าหน้าที่ ที่เรียกว่า “ผู้พิทักษ์สิทธิ์” ลงไปหาเพื่อหาข้อมูลเพิ่ม ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนกับผลกระทบ โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ลงเป็นทีม ลงพร้อมกันทั้ง 14 อำเภอ ในจังหวัดเลย โดยจังหวัดเลยจะเริ่มส่งเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานโดยมีเจ้าหน้าที่ประกอบไปด้วย จากสำนักงานการคลังจังหวัดเลย พนักงานธนาคาร ธกส. ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน เริ่มปฎิบัติตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 63 เป็นต้นไป
และขอให้ประชาชนที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์เตรียมข้อมูลต่างๆ ไว้ให้พร้อมเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง โดยจะมีคำถาม ประกอบอาชีพอะไร ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องไหนที่เกี่ยวกับอาชีพ ที่ได้รับกับผลกระทบการมาตราการการป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้เพื่อรวบรวมส่งกระทรวงการคลังพิจารณาให้ความช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน รวมแล้วเป็นเงิน 15,000 บาท โดยจะมีการย้อนหลังให้ตามที่ได้ลงทะเบียนไว้