เมื่อวันที่ 26 เมษายน 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กว่า 2 ปีที่ผ่านมา ช่วงเพาะปลูกจนถึงฤดูเก็บเกี่ยว ชาวบ้านวังมน หมู่ที่ 5 ต.ภูหอ อ.ภูหลวง จ.เลย ได้ถูกช้างป่า ออกจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง บุกทำลายพืชไร่ ที่ปลูกไว้ในไร่ในสวน และยังรุกเข้าทำลายข้าวของในหมู่บ้าน เคียงนา ทำลายโอ่งน้ำแตกกระจาย และได้ยึดที่ไร่ที่สวน ไม่ยอมหนีออกไปไหน ยังคงวงเวียนอยู่ตามไร่นา แม้ชาวบ้านร่วมกับกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้พยายามผลักดันช้างป่า เข้าไปหากินในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง แต่ทุกปีเมื่อถึงเวลาเพาะปลูกช้างก็กลับมาบุกรุก สร้างความเสียหาย และหวาดผวาให้กับชาวบ้านตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่วิจัยสัตว์ป่าภูหลวง ได้ถ่ายรูปช้างป่ากว่า 53 ตัว ที่ได้เดินออกหากินจนไปถึง อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เดินทางกลับมามุ่งหน้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง โดยใช้เส้นทางเดิมผ่านบ้านวังมน ตำบลภูหอ อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย และมีบางโขลงไม่ยอมเดินทางต่อกลับเข้าเขตป่า แต่ได้หยุดอาศัยตามสวนไร่นาของชาวบ้านวังมน จนชาวบ้านหวาดผวาไม่กล้าออกไปทำไร่ ทำสวน วอนเจ้าหน้าที่แก้ไขปัญหา
นายจีรชัย อาคะจักร หัวหน้าสถานีศูนย์วิจัยสัตว์ป่าภูหลวง เปิดเผยว่า กลุ่มช้างป่าภูหลวงที่เดินไปหากินไกลถึง เขตอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ และเมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา ช้างป่าภูหลวงกว่า 50 ตัว ได้เดินทางกลับมายังพื้นที่จังหวัดเลย โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามช้างป่ากลุ่มนี้มาตลอด และจะมีช้างป่าแยกโขลงประมาณ 30 กว่าตัว ได้เดินทางข้ามไปยังห้วยหินลับ เขตรักษาพันธุ์ป่าภูหลวงแล้ว ที่ยังมีเจ้าหน้าที่เฝ้าคอยเฝ้าติดตามอยู่ห่างๆของช้างโขลงนี้อยู่ แต่จะมีช้างป่าอีก 10 กว่าตัว ที่แยกมาสร้างโขลงใหม่ จะเป็นช้างหนุ่ม ช้างวัยรุ่น และลูกช้างตัวเล็กโขลงนี้จะกระจายออกหากิน ไม่ยอมกลับเข้าป่าแต่ได้หยุดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้านวังมน อาศัยตามไร่สวนของชาวบ้าน
ขณะนี้เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ได้ตั้งกลุ่มเฝ้าระวังช้างป่าภูหลวง ได้ออกเฝ้าระวังกันทุกวัน เพื่อไม่ให้ช้างเดินเข้ามายังหมู่บ้าน อีกทั้งชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ในการแก้ไขปัญหา พืชสวนที่ ช้างชอบกิน โดยเมื่อก่อน ชาวบ้านจะปลูกอ้อย และมันสำปะหลัง พอมาฤดูนี้ ชาวบ้านหันไปปลูกพืชอื่นๆ ที่ช้างไม่กินกันเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งช่วงนี้ ฝนได้ตกลงมา อาหารของช้างก็เริ่มแทงยอดอ่อน หน่อไม้ แหล่งน้ำเริ่มมี บางโขลงก็เริ่มแยกกลับเข้าป่าเหมือนช้างจะรู้ว่า ที่บ้านเขามีอาหารแล้ว จึงได้เดินทางกลับบ้าน แต่ยังบางโขลงยังวนเวียนหากินในไร่สวนของชาวบ้าน
ด้านนายสราวุธ แว่นชัยภูมิ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวังมน เผยอีกว่า ตนและชาวบ้าน ได้ตั้งเวรยามร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกคืนในช่วงนี้ เพื่อออกตระเวณเฝ้าระวังช้างป่า รอบหมู่บ้าน โดยฝั่งท้ายหมู่บ้านวังมน ส่วนใหญ่ จะเป็นช้างหนุ่ม และลูกช้าง กลุ่มละ 2 ตัว ถึง 4 ตัวเดินออกหากิน พืชสวนของเกษตรกร ชาวบ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่ พยายามที่จะพลักดันช้างที่ยังเหลือให้เข้าไปหากินในป่าต่อไป