เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางบุศรา ชัยจันทร์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย เผยว่า โรงรับจำนำเทศบาลเมืองเลย หรือสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย ซึ่งเป็นสถานธนานุบาล สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งเดียวของจังหวัดเลย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพของประชาชนคนในจังหวัดเลย ทางโรงจำนำ จึงได้เพิ่มมาตรการช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระของประชาชน โดยการปรับลดดอกเบี้ย และเพิ่มทุนในการรับจำนำ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับประชาชน และยังช่วยให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้ดีขึ้น
ซึ่งในขณะนี้ทางสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย ได้เตรียมรับสถานการณ์โดยเพิ่มทุนในการรับจำนำ 100 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าน่าจะเพียงพอในการรับจำนำในช่วงวิกฤตนี้ และในช่วงนี้จะมีลูกค้ารายใหม่ๆที่มาจำนำเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และทางโรงรับจำนำเองก็ได้ลดอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำครึ่งสลึง หรือ 0.125 และหลังจากเกิดการระบาดของเชื้อโควิดขึ้น การจำนำสิ่งของส่วนใหญ่ที่ลูกค้ามาจำนำจะเป็นพวก เครื่องมือที่ใช้ประกอบอาชีพเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่า สว่าน หินเจีย ประเภทเครื่องมือช่าง และสิ่งของที่ใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ตู้เย็น ทีวี เครื่องซักผ้า พวกเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นจำนวนมาก
เมื่อก่อนประเภทนี้ไม่ค่อยมีมาจำนำมากนัก แต่ช่วงนี้มีเข้ามาจำนำทุกวัน เมื่อมาเปรียบเทียบสถิติในช่วงปีที่ผ่านมาช่วงระยะเดือนเดียวกันการจำนำจะเฉลี่ยอยู่ที่ทุนประมาณ 40-50 ล้าน หลังจากเกิดวิกฤตโควิด-19 ยอดจำนำทะลุถึง 60-70 ล้านต่อเดือน ทางสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองเลย จึงได้เพิ่มยอดสำรองเงินทุนไว้ที่ 100 ล้านบาทต่อเดือน เพื่อช่วยให้ชาวบ้านได้ฝ่าพ้นวิกฤติไปด้วยกัน นางบุศรา กล่าว
