เมื่อวันที่ 5 กันยายน 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศหยุดชดเชยสงกรานต์ 4 วัน ระหว่างวันที่ 4 – 7 กันยายน 63 บรรยากาศการท่องเที่ยวอำเภอเชียงคาน โดยเฉพาะถนนคนเดินเชียงคาน เรือนไม้เก่า เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศเดินทางมาท่องเที่ยว จึงทำให้บรรยากาศถนนคนเดินเชียงคานกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวและพักผ่อนในช่วงวันหยุดชดเชยประมาณ 10,000-15,000 คน ที่พักทั้งโรงแรม รีสอร์ต เต็มทุกแห่ง นักท่องเที่ยวล้นจนกางเต้นท์พักที่หน้าสถานนีตำรวจภูธรอำเภอเชียงคาน และหน้าสถานนีตำรวจ ตชด.246 เชียงคาน เต็มทั้ง2 สนามหน้าสถานี
ในส่วนของบรรดาร้านอาหาร ผู้ประกอบการด้านที่พักโรงแรม รีสอร์ต และโฮมสเตย์ ในถนนคนเดินต่างก็ยังคงพากันปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยการจัดบริการเจลล้างมือ การจัดจุดคัดกรอง และการเว้นระยะห่างทางสังคม และพบว่านักท่องเที่ยวพากันเดินทางมาท่องเที่ยวตามถนนคนเดินเรือนไม้เก่าในช่วงกลางคืน และเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองและเดินเที่ยวชมวิถีชีวิตชาวบ้านริมน้ำโขง ส่งผลให้ร้านค้า ร้านจำหน่ายอาหารและของที่ระลึก รวมถึงสินค้า OTOP จำหน่ายได้มากขึ้น และยังคงการท่องเที่ยววิถีชีวิตแบบ New Normal
ซึ่งอำเภอเชียงคาน เป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ที่ยังคงรักษา ขนบประเพณี วัฒนธรรม รวมถึงการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พอเพียง วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ซึ่งหาดูยากในปัจจุบัน อย่างเช่นการใส่บาตรข้าวเหนียวล้วนๆในตอนเช้า และเนื่องจากเป็นเมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ แห่งนี้จึงเป็นที่สนใจ ของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ภาพบ้านเก่า ๆ ที่เรียงรายติดกันอยู่ริมถนนชายโขง บางหลังอายุกว่า 100 ปี จึงเป็นที่ดึงดูดใจ ให้นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายรุ่น ต่างหลั่งไหลเดินทางมาท่องเที่ยว
บ้านเรือนที่เมืองเชียงคานจะแบ่งออกเป็นซอย เล็ก ๆ เรียกว่า ถนนศรีเชียงคาน ขนานคู่กันไปไปกับถนนใหญ่ ซึ่งเป็นถนนสายหลัก เริ่มตั้งแต่ถนนศรีเชียงคาน ซอยที่ 1- 24 แบ่งเป็นถนนศรีเชียงคานฝั่งบนกับฝั่งล่าง ชื่อซอยเหมือนกัน ถนนศรีเชียงคานฝั่งล่าง คือ ถนนเส้นที่เต็มไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่ ที่พัก โฮมสเตย์ ร้านอาหาร และร้านค้าเก๋ไก๋มากมายซึ่งตั้งอยู่เรียบริมโขง และยังมองเห็นฝั่งของสปป.ลาว
