เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีการฮั้วการประมูล ของ นายสมเกียรติ วงษ์ลา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ธาตุ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย พร้อมกับนายเสกสรรค์ ดวงฤดีสวัสดิ์ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.เมืองเลยทวีทรัพย์ก่อสร้าง (2001) โดย ปปช. ได้ตั้งข้อหากระทำการอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าเสนอราคาอย่างเป็นธรรมประมูลจ้าง ก่อสร้างอาคารสำนักงานฯ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษนายสมเกียรติ วงษ์ลา จำคุก 7 ปี พร้อมกับเจ้าของ หจก.จำคุก 4 ปี 8 เดือน รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือ คุก 2 ปี 4 เดือน
จากกรณีเมื่อปี 2558 ในสมัยนายสมเกียรติ วงษ์ลา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ธาตุ อำเภอเชียงคาน ต่อมา อบต.ธาตุได้ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลธาตุ และได้ทำงบประมาณก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลตำบลธาตุ และได้มีการร้องเรียน การเปิดซองประมูลไม่โปร่งใส และมีการร้องเรียนถึง ปปช. ได้ลงมาตรวจของโครงการ
และเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2559 ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 7, 12 ประกอบ ป.อ.86 และได้ส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 โดยมีนายสมเกียรติ วงษ์ลา เป็นจำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 151 หจก.เมืองเลยทวีทรัพย์ก่อสร้าง (2001) จำเลยที่ 2 และนายเสกสรรค์ ดวงฤดีสวัสดิ์ ผจก.ห้างฯเป็นจำเลยที่ 3 มีความผิด ตามมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86
ล่าสุดได้มีคำพิพากษา จำคุก นายสมเกียรติ วงษ์ลา จำเลยที่ 1 มีกำหนด 7 ปี และปรับหจก.เมืองเลยทวีทรัพย์ก่อสร้าง (2001) จำเลยที่ 2 เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท พร้อมกับจำคุก นายเสกสรรค์ ดวงฤดีสวัสดิ์ ผจก.ห้างฯ จำเลยที่ 3 มีกำหนด 4 ปี 8 เดือน ในส่วนจำเลยที่ 2 หจก.เมืองเลยทวีทรัพย์ก่อสร้าง (2001) และนายเสกสรรค์ ดวงฤดีสวัสดิ์ ผจก.ห้างฯ ให้การรับสารภาพ ศาลได้ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำเลยที่ 2 ค่าปรับลดเงินคงเหลือ 100,000 บาท ส่วนนายเสกสรรค์ ดวงฤดีสวัสดิ์ ผจก.ห้างฯ จำเลยที่ 3 ลดโทษจำคุกเหลือ 2 ปี 4 เดือน แต่จำเลยทั้ง 3 ได้สิทธิประกันตัว ยังคงมีสิทธิต่อสู้คดี เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ในชั้นศาลที่สูงขึ้นต่อไป
สำหรับ พ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 12 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ มีความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
และส่วนมาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท