เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563 ตำรวจ ตชด 246 เชียงคาน ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดเลย ได้สนธิกำลัง ล่อซื้อยาเสพติดที่ทะลักจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว โดยการนำของ พล.ต.ต.สุภัทร ม่วงสมัย ผบก.ตชด.ภาค 2 พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.เลย พ.ต.อ.เพิ่มศักดิ์ ตาตะนันท์ ผกก.ตชด.24 พ.ต.ท.บุญเลิศ วิเศษชาติ รอง ผกก.ตชด.24 พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ โพธิ์ศรีมา รอง ผกก.ตชด.24
ได้ร่วมกันวางแผน ให้ พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ใจสุข ผบ.ร้อย ตชด.246 พ.ต.ต.ทันยา ชุมฝาง หน.ชปข.ฉก.24 ร.ต.อ.สุเมธ พลเยี่ยม รอง หน.ชปข.ฉก.24/ชปข.ร้อย ตชด.246 เข้าติดต่อล่อซื้อยาเสพติดจากพ่อค้ายาจาก สปป.ลาว จากที่มีสายข่าวแจ้งว่า มียาไอซ์จำนวนมาก รอขึ้นฝังโขงด้านอำเภอปากชม จังหวัดเลย ต้องการขายให้กับพ่อค้ายาคนไทย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุด ตชด.246 จึงได้ทำการติดต่อ ประสานกับพ่อค้ายาเสพติดใน สปป.ลาว จึงได้นัดมีการส่งของโดยมีการตกลงซื้อขายเสพติดสั่งซื้อในจำนวน 20 กก.โดยตกลงกันที่ กก.ละ 340,000 บาท แต่ต่อมามีการเจรจากัน และผู้ค้าแจ้งว่าสามารถขนยาไอซ์ให้ได้แค่ 10 กก.ในราคา 3,400,000 บาท จึงได้นัดแนะส่งของกันที่บริเวณถนนปากชม หนองคาย ห่างจากตัวอำเภอปากชม 2 กม.และหลังจากรับยาให้นำเงินมาจ่ายที่บริเวณข้างร้านเซเว่น อ.ปากชม
เจ้าหน้าที่จึงได้แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด ต่อมาพบยาไอซ์วางอยู่จุดที่นัดแนะแต่ไม่พบผู้นำมาวาง จากนั้นได้นำเงินไปส่งให้บริเวณข้างร้านเซเว่น พบชายไทยทราบชื่อนายเจษฎา บัวรมย์ ยืนรอรับเงิน หลังจากเจ้าหน้าที่ส่งเงินให้ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม ทราบว่านายเจษฎา บัวรมย์ เป็นผู้จัดการเหมืองแร่ แห่งหนึ่งในอำเภอปากชม พร้อมทั้งสารภาพว่า ตนได้รับจ้างท้าวน้อย หรือท้าวสุพัด ไม่ทราบนามสกุล เป็นคนสัญชาติลาว อาศัยอยู่บริเวณเมืองหมื่น แขวงเวียงจันทน์ อยู่ตรงข้ามกับ อ.ปากชม จ.เลย ให้มารับเงิน ส่วนยาไอซ์ที่ไปวางไว้คนจาก สปป.ลาว ข้ามมาวางไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางยาไอซ์ 10 กก. พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน(ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครอบ เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และได้ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ปากชม ดำเนินคดีต่อไป และจากนั้นได้นำผู้ต้องหาและพร้อมของกลางยาไอซ์ เข้าแถลงข่าวที่ตำรวจภูธรจังหวัดเลย