เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ.ลานต้นคริสต์มาสหลังที่ว่าการอำเภอภูเรือ จังหวัดเลย นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมกับนายโสภณ สุวรรณรัตน์ และนายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นางสาวภูมารินทร์ คงเพียนธรรม นายอำเภอภูเรือ พร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการ ได้เปิดแถลงข่าวงานเทศกาลต้นคริสต์มาส ภูเรือ ครั้งที่ 9 โดยทางอำเภอภูเรือได้เนรมิตพื้นที่หลังอำเภอภูเรือกว่า 5 ไร่ เป็นลานต้นคริสต์มาสให้มีชีวิตชีวา มีอุโมงค์ดอกไม้สีสันสดใส ประดับไฟสวยงามและไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวสีสันสวยงามเต็มพื้นที่ รวมทั้งแลนด์มาร์คกังหันยักษ์ รอรับนักท่องเที่ยว โดยจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2564
นายชัยธวัช เนียมศิริ เผยว่า อำเภอภูเรือ เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายต้นคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของชาวภูเรือ แต่เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงานของต้นคริสต์มาสที่มีสีแดง สวยงามในฤดูหนาวนี้ด้วย อำเภอภูเรือจึงได้นำต้นคริสต์มาปลูกรวมกันเป็นจำนวนมากในลานคริสต์มาสแห่งนี้ หวังจะเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาจังหวัดเลยมากขึ้น อันมีผลให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวมีความคึกคักมากขึ้น
และในปีนี้เป็นสัญญาณที่ดี เรื่องแรกคือ อากาศ รู้สึกเย็นลงเร็วมาก กลางคืนหนาว กลางวันมีแดดทำให้ต้นคริสต์มาสสีแดงเข้ม สีชมพูชัดเจน เป็นธรรมชาติ การเตรียมงานปีนี้ได้รับการความร่วมมือในการจัดสวนคริสต์มาส และไม้ดอกไม้ประดับ จากสำนักงานเกษตรจังหวัดเลย ที่ทำการปกครองอำเภอภูเรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทั้ง 7 แห่ง ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอภูเรือ โดยมีกำหนดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการและยิ่งใหญ่อลังการ ในวันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 63 นี้
ด้านนางสาวภูมารินทร์ คงเพียนธรรม นายอำเภอภูเรือ ได้กล่าวว่าในปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ประกอบอาชีพปลูกไม้ดอกไม้ประดับแทนการทำเกษตรกรรมมากขึ้น ทำให้อำเภอภูเรือได้ชื่อว่า “ภูเรือเมืองดอกไม้งามสามฤดู” เนื่องจากเป็นแหล่งปลูกและจำหน่ายไม้ดอกเมืองหนาวที่มากที่สุดในประเทศไทย และสามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี และเพื่อเป็นการรองรับสนับสนุนอาชีพของราษฎรผู้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับดังกล่าว อำเภอภูเรือจึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ของอำเภอภูเรือมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพ และรายได้ของราษฎรแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลและจังหวัดเลย