จากการบูรณาการกำลังพื้นที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย นำโดยนายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอเชียงคาน ได้ร่วมกันสนธิกำลังทั้ง ตำรวจ สภ.เชียงคาน ตำรวจน้ำเชียงคานสถานีเรือเชียงคาน ชุดปฏิบัติการข่าวร้อย ทพ.2209 ร้อย ตชด.ที่ 246 เจ้าหน้าที่ ตม.จว.เลย และจนท.ฝ่ายปกครองอำเภอเชียงคาน ร่วมกันตรวจสอบบุคคลต่างด้าวทุกสัญชาติ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 และป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบพื้นที่ตามแนวชายแดนตลอดระยะทางกว่า 60 กม.ตามแนวริมตลิ่งแม่น้ำโขง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ลาดตระเวนตามริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณริมน้ำโขงท่าทรายทรัพย์เจริญ บ้านคกงิ้ว หมู่ที่ 5 ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย ได้พบเรือเพลาหางยาวจากฝั่ง สปป.ลาว มุ่งหน้ามายังฝั่งไทยจุดเกิดเหตุ จากนั้นเมื่อเรือลำดังกล่าวแล่นมาใกล้จะถึงฝั่งไทย ได้มีชายคนหนึ่งกระโดดลงจากเรือ แล้วว่ายน้ำเข้ามายังริมฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ได้แอบซุ่มดูอยู่เมื่อชายคนดังกล่าวว่ายน้ำเข้ามาถึงริมฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและควบคุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมทั้งได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยเครื่องตรวจวัดได้ 36.1 c ปรากฎว่าไม่มีไข้ ทราบชื่อว่านายหรือท้าวไซ สีหะราด อายุ 27 ปี สัญชาติลาว ราษฎรบ้านปากพาง เมืองสานะคาม แขวงเวียงจันทน์
พร้อมสารภาพว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด- 19 ทำให้ตนตกงาน ในสปป.ลาว ก็ไม่งานให้ทำ จึงได้ตัดสินใจ แอบหนีมาฝั่งไทยเพื่อจะมาหางานทำ ตนเคยไปทำงานที่สมุทรสาคร ก่อนจะมีการแพร่ระบาด ตนได้กลับมาเข้า สปป.ลาว เมื่อคนลาวรู้ก็ได้ระวังตัวเองและไม่เป็นที่ต้อนรับ ทำให้ตนอึดอัดจึงคิดหนีมาหางานทำในเมืองไทยอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งหาเป็นคนต่างด้าว เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นควบคุมตัว เพื่อทำการตรวจหาเชื้อ โควิด 19 โดยแพทย์จากโรงพยาบาลเชียงคาน ผลการตรวจออกมาแล้วปรากฏว่าไม่มีเชื้อของโควิด 19 จึงได้จับกุมตัวส่ง พงส.สภ.เชียงคาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป