เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรัก เกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบขาย และร้านค้าขายดอกไม้มักจะสั่ง และเตรียมดอกกุหลาบขายให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อนำดอกกุหลาบมอบเป็นสัญญาลักษณ์ความรักให้แก่กัน ทุกปีจะเป็นวันที่ทำรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ดอกกุหลาบเป็นจำนวนมาก รวมทั้งร้านค้าขายดอกไม้ พอมาปีนี้ต่างบ่นอุบเกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบ ได้มีร้านค้าขายดอกไม้สั่งจำนวนลดลง จนต้องลดราคาขายเท่าราคาทุน เหตุร้านค้าไม่ยอมสั่งเพราะเศรษฐกิจไม่ดี เงินไม่สะพัด แถมเจอโควิด -19
นายสำราญ เพียคำ อายุ 35 ปี เจ้าของสวนดอกกุหลาบ 240 หมู่ 6 บ้านสะอาด ต.น้ำสวย อ.เมือง จ.เลย เล่าว่า ตนเองนำพันธุ์กุหลาบฮอลแลนด์มาปลูก เพราะดอกโต สวยงามและกิ่งก้านแข็งแรง เก็บขายได้นานกว่าพันธุ์อื่นๆ โดยปลูกในพื้นที่ 4 ไร่ จำนวน 12000 ต้น สลับกันไปทั้งปี กุหลาบเป็นพืชที่ต้องการอากาศในอุณหภูมิที่เหมาะสมไม่หนาวเกินไปและไม่ร้อนเกินไป ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต สวนนี้ปลูกกุหลาบหลากหลายสี เช่น สีขาว สีแดงเข้ม สีแดง สีชมพู สีส้ม เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้านำไปจำหน่ายตามความต้องการ ของลูกค้า ตามความเหมาะสม ตามเทศกาล ซึ่งส่วนใหญ่นิยมสีแดงเข้มและสีขาว มากกว่าสีอื่น
นายสำราญ กล่าวต่อว่า ลูกค้าจาก ต่างจังหวัดเช่น อุดรธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่นและเลย จะมาสั่งจองดอกกุหลาบ เพื่อนำไปขาย ครั้งละ 5000-7000 ดอก หรือ 200-300 ห่อ ในแต่ละครั้ง ในช่วงวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ ทำให้ขายจนหมดสวน ต้องเร่งตัด และปีที่แล้วขายดอกละ 7 บาท มาปีนี้ขายดอกละ 4 – 5 บาท ราคาลดลงกว่าปีก่อนและร้านค้ายังไม่ยอมสั่งอีก จนต้องลดราคาลง ส่วนใหญ่ให้เหตุผลเศรษฐกิจแย่มากๆ บวกกับสถานการณ์โรคติดต่อโควิด 19 อีก แม้ว่าราคาจะไม่ดีเหมือนปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องขายออกไป