เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดเลย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นายปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย แถลงสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดเลย ซึ่งวันนี้พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น 38 ราย มาจากนอกพื้นที่ทั้งหมด มีจากการขายสลาก 6 รายไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รักษาตัวอยู่ 794 ราย รักษาหายแล้ว 473 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมในระลอกของเดือนเมษายน 2564 รวม 1,271 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องติดตามอีกจำนวน 457 ราย โดยผู้ป่วย 38 ราย มาจากจังหวัดอื่นทั้งหมด
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ เปิดเผยว่า จังหวัดเลยได้เตรียมการสำหรับผู้ติดเชื้อที่มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดเลย ยืนยันว่ามีสถานที่รองรับทุกคน และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พบในพื้นที่มีตัวเลขค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่มาจากนอกพื้นที่ ทั้งนี้ไม่อยากให้วางใจ อยากให้เข้าใจว่าโควิดเป็นโรคที่ค่อนข้างแรง ดังนั้นการปฏิบัติตามมาตรการ DMHTTA จึงสำคัญมากในการป้องกันตนเอง พร้อมขอความร่วมมืออย่าปกปิดไทม์ไลน์ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และทางการแพทย์ และหากต้องการกลับมารักษาที่จังหวัดเลย ขอให้ติดต่อกลับมาก่อนที่จะเดินทาง เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้ที่ต้องการกักตัวในจุดกักตัวชุมชนเพื่อสังเกตุอาการ แต่ไม่ทราบว่าจะประสานใคร แนะนำให้ประสานผ่านทางอำเภอได้ทันทีเพื่อจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมให้
ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดเลยได้มีการตั้งด่านตรวจ เข้าออกจังหวัด 5 จุดอย่างเข้มงวด เป็นการร่วมมือกันหลายภาคส่วนทั้งฝ่ายความมั่งคง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองและสาธารณสุข เพื่อคัดกรองคนเข้าจังหวัด จากนั้นจะมีการส่งต่อข้อมูลไปยังพื้นที่ ที่จะมีการเดินทางเข้าไป จากนั้นเข้าสู่กระบวนการกักตัว พบว่าเป็นการป้องกันการนำเชื้อเข้ามาแพ่กระจายในพื้นที่ได้ระดับหนึ่ง จะพบหลังจากที่มีการตั้งด่านในช่วงผู้ค้าสลากกับมาจากการขายลอตเตอรี่ และผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด และพบได้นำกักตัว 14 วันและตรวจหาเชื้อ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจาก 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ทั้งนี้ในอนาคต อาจจะมีการขยายเรื่องการตรวจหาโควิด 19 แบบ ATK ที่ด่านตรวจเพื่อป้องกัน แต่ต้องดูหลายมิติ โดยเฉพาะความปลอดภัยและความเหมาะสม ซึ่งจะมีการเตรียมพิจารณาในที่ประชุมต่อไป