เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดเลยได้ประกาศเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศให้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้จังหวัดเลยเริ่มมีอุณหภูมิต่ำลง ในช่วงเช้ามีอากาศเย็นลง มีหมอกลงปกคลุมไปทั่วทั้ง 14 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณยอดภูและหมู่บ้านที่ใกล้หุบเขา อย่างวันนี้พื้นที่ อำเภอนาแห้ว จ.เลย พื้นที่เป็นภูเขาสูง และจะมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี และทุกปีจะช่วงปลายฝนต้นหนาว จะมีนักท่องเที่ยวแห่มาสัมผัสทะเลหมอกบนภูหมวก ภูใหญ่ ภูค้อ ต่างไม่ผิดหวัง
ภูหมวก หรือผาหมวก ตั้งอยู่ที่บ้านนาโพธิ์ อำเภอนาแห้ว เดิมทีเป็นฐานที่มั่นทหารสมัยสงครามร่มเกล้า ที่ผาหมวก เป็นจุดชมวิว มองเห็นบ้านนาโพธิ์ บ้านเหมืองแพร่ฝั่งไทย และบ้านเหมืองแพร่ ฝั่ง สปป.ลาว โดยมีแม่น้ำเหืองกั้นกลาง ในฤดูหนาว และฤดูฝนจะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยแห่งหนึ่งในอำเภอนาแห้ว มีความสูงประมาณ 630 เมตร จากระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับหน้าผาที่ยื่นออกมา และมีเมฆเป็นพื้นหลังสีขาวเหมือนปุยนุ่น ไกลออกไปจะเห็นภูเขาลูกน้อยใหญ่วางทับซ้อนกันอย่างสวยงาม เช่น ภูค้อ ภูสนทราย และภูเขาใน สปป.ลาว วางทับกันซ้อนกันอย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสปุยเมฆที่ล่องลอยขึ้นมาให้เอื้อมถึงได้
ด้านนายจริยาทร สูหู่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลย กล่าวว่า ในหลายพื้นที่ของจังหวัดเลย ซึ่งเป็นจุดชมทะเลหมอกที่น่าสนใจ รวมแล้วกว่า 20 แห่ง อาทิ จุดชมทะเลหมอกยอดภูเรือ ยอดภูกระดึง ยอดภูอีเลิศ ยอดภูค้อ ยอดภูลำดวน ยอดภูป่าเปาะ ภูหมวกหรือผาหมวก เป็นต้น ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่ม Gen Y สายแค้มป์ปิ้ง เป็นอย่างมาก
นอกจากกลุ่มนี้แล้วยังมีกลุ่มสายแค้มป์ปิ้งที่มีกำลังซื้อสูง เช่น กลุ่มแค้มปิ้งรถบ้าน และ กลุ่ม Big Bike สายแค้มป์ที่หลงใหลในเส้นทางการขับรถท่องเที่ยว โดยเฉพาะถนนสายเชียงคาน – ปากชม (เลาะเลียบริมแม่น้ำโขง) ถนนสายด่านซ้าย – นาแห้ว หรือ ถนนสายด่านซ้าย – เชียงคาน (เลาะเลียบแม่น้ำเหือง) และถนนสายวังสะพุง – ภูหลวง – หล่มเก่า (ถนนลอยฟ้า) ที่มีเส้นทางโค้ง สลับกับจุดชมวิว จุดถ่ายภาพตลอดเส้นทาง โดยคาดว่าตลอดระยะเวลา 3 เดือน (พฤศจิกายน – ธันวาคม 2564 และมกราคม 2565) จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังจังหวัดเลยไม่น้อยกว่า 3 แสนคน ทำรายได้กระจายในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 550 ล้านบาท