เมื่อวันที่ 18 มกราคม 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่โรงงานน้ำตาล ซึ่งในจังหวัดเลยมีอยู่ 2 โรง ได้เปิดหีบอ้อยและรับซื้ออ้อยเข้าโรงงาน ทำให้เกษตรกรบางส่วนขาดแรงงานคนตัดอ้อย หรือไม่มีจิตสำนึกเห็นแก่ตัว ได้เผาไร่อ้อย เพื่อเร่งส่งอ้อยให้โรงงานก่อนปิดหีบ จนทำให้เกิดผลกระทบทั้งปัญหาการเกิดหมอกควันฟุ้งกระจายเป็นวงกว้าง ทั้งก่อปัญหาเถ้าฝุ่นหรือหิมะดำจากการเผาไร่อ้อย ปลิวลอยไปตกใส่บ้านพัก และทรัพย์สินของชาวบ้าน
จนทำให้ได้รับความเดือดร้อนกับเศษเขม่าขี้เถ้า หรือหิมะดำฟุ่งกระจายไปทั่วเมือง โดยเฉพาะเขต อำเภอเมืองเลย อ.วังสะพุง อ.หนองหิน และอ.ผาขาว ซึ่งเป็นอำเภอที่มีการปลูกอ้อยจำนวนมาก ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จนในหลายสื่อโชเซียสเรียกร้องหาความรับผิดชอบจากทางโรงงานน้ำตาลและจิตสำนึกของชาวไร่ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายสำราญ ชาวบ้านติดต่อ ต.นาอาน อ.เมืองเลย เผยว่า ทุกวันได้รับผลกระทบจากที่ชาวไร่อ้อย เผาอ้อยส่งโรงงาน เผาทุกวันจนชุมชน หมู่บ้าน ไม่สามารถตากผ้า เขม่าเศษใบอ้อยปลิ่วว่อนตกใสผ้าที่ตาก หน้าบ้านเต็มไปด้วยเขม่าเศษใบอ้อย และคาดว่าอีกเดือนหรือ 2 เดือนข้างหน้าจะเผามีความรุนแรงมาก และจะเร่งเผากันมากขึ้น เพราะทางโรงงานจะปิดหีบ พวนตนเดือนร้อนทุกปี
แม้หน่วยงานราชการประกาศห้ามเผาก็ตาม ใช่แต่ว่าสั่ง แต่ไม่มีการเฝ้าระวัง มาตราการการป้องปรามแต่อย่างใด หน่วยราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต. ตำรวจ นายอำเภอ หรือหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ถ้าช่วยกันเข้มงวดในแต่ละอำเภออย่างจริงๆจัง คงจะบรรเทาได้ระดับหนึ่ง แต่นี้แต่ละหน่วยงานกับเฉยเห็นการเผาอ้อยดูกลายเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ผิดฎหมายแต่อย่างใด ผู้รับกรรมประชาชน ที่อยู่ใกล้เคียง