เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 64 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเลย พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองเลย พร้อมกับ พ.ต.ท.ดำรงค์ วงค์ลืออำนาจ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ต. สุพัฒน์ พลค้อ พนักงานสอบสวน ร่วมแถลงข่าว จากกรณี มีผู้เสียหาย อายุประมาณ 26-27 ปี กว่า 10 คน เดินทางมาร้องสื่อมวลชน จังหวัดเลย ณ.อาคารตึก ททท.สำนักงานเลย ว่าถูกหลอกร่วมลงทุน เพื่อทำแชร์เงิน แชร์ทอง และธุรกิจอีกหลายอย่าง พร้อมกับมีดอกเบี้ยกลับคืน 100 % ลงทุนไม่ถึงเดือนโกงเงินร่วมทุนไปหน้าตาเฉย แจ้งความแล้ว ตำรวจเฉยคดีไม่คืบหน้า ร้องถึงศูนย์ดำรงธรรม เงียบเหมือนเดิม สุดท้ายขอพึงสื่อ ในกลุ่มมี 40 กว่าคน สูญเงินกว่า 30 ล้าน หวังไม่ให้มีใครถูกหลอกต่อ
พ.ต.อ.ยศวัจน์ ผกก.สภ.เมืองเลย ได้แถลงกล่าวว่า ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากถูกหลอกลวง ให้นำเงินมาร่วมลงทุนในกลุ่มแอพพลิเคชั่นไลน์และแอพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค โดยใช้ชื่อว่า “นายทุนบ้านริชชี่พารวย168” แต่ไม่ใด้รับเงินคำตอบแทนตามที่ได้ตกลงกันจนเป็นเหตุได้รับความเสียหาย สถานีตำรวจภูธรเมืองเลย ขอแถลงข้อเท็จจริงดังกล่าวให้สื่อมวลชนทราบ ดังนี้
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 64 มี นางสาวอารียา นันทสุธา และคนอื่นรวม 10 คน ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเลย ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวไอลดา ศรีพุทธา อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา โดยมีพฤติการณ์แห่งการกระทำว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 64 ถึงวันที่ 4 กันยายน 64 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน ผู้ต้องหาได้บังอาจโพสต์หรือแสดงข้อความในกลุ่มแอพพลิเคชั่นไลน์ และแอพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค โดยใช้ชื่อว่า “นายทุนบ้านริชชี่พารวย168” ขณะนั้นมีสมาชิกประมาณ 40 คน ในทำนองชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุน โดยจะได้รับคำตอบแทนในอัตราส่วนเงินลงทุน 100,000 บาท ต่อ 500 บาทต่อวัน และจะได้รับเงินภายใน 1-5 วัน นับแต่วันที่นำเงินมาลงทุน ผู้เสียหายและคนอื่นรวม 10 คน พบเห็นแล้วหลงเชื่อจึงได้โอนเงินให้แก่ผู้ต้องหา โดยวิธีโอนเงินผ่านธนาคารไปยังบัญชีของผู้ต้องหาและบัญชีของบุคคลใกล้ชิด
เมื่อถึงกำหนดเวลาที่ตกลงกันผู้เสียหาย และคนอื่นไม่ได้รับเงินและผลประโยชน์ตอบแทนแต่อย่างใด จน เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงินจำนวน 8,182,500 บาท ความคืบหน้าทางคดีนั้น หลังจากได้รับคำร้องทุกข์ ของผู้เสียหายดังกล่าว ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเลย ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ดังนี้ โดยได้สอบสวนปากคำผู้เสียหาย จำนวน 10 ราย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นพยานหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวน พร้อมทั้งได้อายัดบัญชีผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 รายไปแล้ว และยังได้ดำเนินการอายัดการทำธุรกรรมทางบัญชีผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้อง และได้ทำการสอบสวนเจ้าของบัญชีเงินฝากที่ผู้ต้องหาใช้ในการกระทำดังกล่าวไว้ จำนวน 4 ราย และยังได้มีหนังสือไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อขอตรวจสอบเส้นทางการเงิน และวิเคราะห์การทำธุรกรรมทางการเงินของผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว
และในชั้นนี้อยู่ระหว่างรอรายการเดินบัญชีของผู้ต้องหา และผู้ที่เกี่ยวข้องจากธนาคารสำนักงานใหญ่ จำนวน 5 แห่ง ซึ่งได้ทำหนังสือทวงถามไปยังธนาคารเจ้าของบัญชีเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก ให้นางสาวไอลดา ศรีพุทธา ผู้ต้องหา และได้ทำการสอบสวนพร้อมกับได้ตั้งข้อหา”กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ในกรณีนี้หากได้เส้นทางการเงินของผู้ต้องหาจากธนาคาร พนักงานสอบสวนพร้อมส่งสำนวนการสอบสวนส่งให้พนักงานอัยการฟ้องทันที ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว สามารถร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ได้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเลย