จากกรณีที่นางสมจิตร สุธงษา อายุ 68 ปี อยู่ หมู่ 7 ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย เกษตรกรปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ขายที่อำเภอภูเรือ ได้ขอลงบันทึกประจำวันกับ ร้อยเวร สภ.ภูเรือ อ.ภูเรือ จ.เลย ว่าได้ว่า ถูกพนักงาน ธ.ก.ส.สาขาภูเรือ ได้แอบถอนเงินที่ฝากในบัญชี 9 ครั้งสูญเงิน 2,601,000 บาท เกือบหมดบัญชี หลังมีการตรวจสอบ พบเป็นพนักงานหญิง แอบถอนไปใช้ และว่าจะรับใช้แต่เงียบ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ร้านขายไม้ดอกไม้ประดับ สวนเพลินจิต นายสรายุทธ โตพันธ์ ผู้จัดการ ธกส.สาขาภูเรือ และเจ้าหน้าที่ ธนาคาร นำกระเช้าดอกไม้ ไปมอบให้กับคุณยายสมจิตร พร้อมกับ แจ้งข่าวดี ว่าเงินโอนเข้าแล้ว พร้อมกับได้นำสมุด มาคืนให้กับ นางสมจิตร สุธงษา เจ้าของบัญชี โดยทางธนาคาร ได้โอนเงินเข้าบัญชีคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย จำนวน 2,280,000 บาท
นางสมจิตร สุธงษา เล่าว่า หลังมีเงินเข้ามาในบัญชีแล้ว ก็สบายใจขึ้น แต่สภาพจิตใจ ยังย้ำแย่อยู่ ซึ่งเงินที่ฝากอยู่นั้น ก็ยังฝากไว้เหมือนเดิม ซึ่งช่วงแรก หลังจากทราบว่าเงินในบัญชีหายไป ก็คิดหนัก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ตื่นขึ้นมากลางดึก ก็นอนไม่หลับเลย อีกอย่างพอรู้แล้วว่า ใครเอาเงินไป ผ่านไป 1 เดือนก็ยังเงียบอีก และหลังจากเป็นข่าวแล้ว ก็ถึงได้เงิน สบายใจ แต่จิตใจยังเหนื่อยอยู่ ซึ่งหลังจากนี้หากนำเงินไปฝาก ก็จะปรับสมุดทุกครั้ง ดูดีๆ เพราะตาเป็นคนเอาเงินไปฝากที่ ธกส. ตลอด แต่ก็อยากจะฝากไปยังคนที่เอาเงินของยายไป ว่า อย่าไปทำกับใครอีก เพราะมันเสียหาย รวมทั้งสภาพของจิตใจของเจ้าของเงิน
นายสรายุทธ โตพันธ์ ผู้จัดการ ธกส.สาขาภูเรือ เผยว่า หลังจากที่เป็นข่าวไปนั้น ทางธนาคาร ได้เร่งดำเนินการ โดยหลังจากได้สอบสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว ทราบจำนวนเงิน ที่เงินฝากของลูกค้าเสียหายไปนั้น ตามจำนวนนั้นจริง ทางธนาคาร ได้รีบรายงาน ไปยังสาขาใหญ่ และได้มีคณะกรรมาการ ตรวจสอบ เพื่อเร่งทำการเยียวยา คืนเงินให้กับลูกค้า ขณะนี้ได้จัดการโอนเงิน เข้าบัญชีลูกค้าไปแล้ว ครบตามจำนวน พร้อมดอกเบี้ย
ส่วนการดำเนินการกับพนักงานนั้น ตอนนี้ ได้ให้ย้ายไปอยู่ที่ จังหวัดเลย ซึ่งในขณะนี้ พนักงงานรายนี้ ได้พักงานไปก่อน ซึ่งหลังจากนี้ จะได้เร่งทำการสอบ พร้อมกับให้ทำเรื่อง เพื่อให้พนักงานรายนี้ นำเงินคืนทางธนาคาร พร้อมกับจะได้ดำเนินการทางวินัย และต้องได้มีการดำเนินการ ทั้งในเรื่องของทางกฎหมาย ซึ่งในขณะนี้ อยู่ในระหว่างการดำเนินการต่อไป
โดยการยักยอกเงินนี้ เป็นของเรื่องตัวบุคคล เพราะทางระบบของธนาคาร นั้นรัดกุมอยู่แล้ว แต่เรื่องตัวบุคลนั้น เพราะความไว้ใจกันเฉยๆ โดยยอดเงินในการถอนนั้น หากยอดจำนวนเงินเยอะๆ จะต้องมีกระบวนการโดยการผ่านของผู้อนุมัติเท่านั้น โดยการทำครั้งนี้ พนักงานรายนี้ มาหลอกผู้บังคับบัญชาอีกทีหนึ่ง โดยหลังจากเกิดเหตุ ทางธนาคารเองได้ตรวจสอบ บัญชีเงินฝากของลูกค้ารายอื่นๆแล้ว ไม่มีเงินหายไปเหมือนรายนี้ มีรายนี้รายเดียว ซึ่งครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นการกระทำครั้งแรก เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น อยากจะฝากไปยังลูกค้า ของธนาคาร ธกส. อยากให้มีความเชื่อมั่น มั่นใจ มีระบบการตรวจสอบอย่างรัดกุมอยู่แล้ว เงินที่ฝากไว้ ไม่มีหายแน่นอน
