เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านศรีภูธร ต.ปากชม อ.ปากชม จ.เลย เป็นหมู่บ้านอยู่ติดแม่น้ำโขง พอถึงช่วงฤดูแล้งหรือน้ำโขงแห้ง เห็นหาดทราย ชาวบ้านต่างออกมาร่อนทองตามริมแม่น้ำโขง ยิ่งช่วงนี้ทองมีราคา ชาวบ้านตื่นแต่เช้าเข้าจับจองสถานที่ เพื่อหาจุดร่อนทอง ช่วงน้ำโขงแห้งแต่ไม่สร้างความผิดหวัง บางคนร่องได้ทองขายได้ถึงวันละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท ต่อวัน
นางอำนวย ชาวบ้านบ้านศรีภูธร เผยว่า การร่อนทองของชาวบ้านศรีภูธร ได้ทำกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นย่า รุ่นตายาย สืบทอดกันมาแต่โบราณ ถือว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขง หลายสิบปีก่อนมีคนยึดเป็นอาชีพจำนวนมาก แต่ระยะหลังเหลือคนที่ลงน้ำโขงร่อนหาเศษทองแทบจะนับตัวได้ จนปัจจุบันมีคนร่อนทองเป็นอาชีพจริงๆเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเหลืออยู่ไม่กี่คน การร่อนหาทองคำในแม่น้ำโขง จะได้น้อยได้มากแล้วแต่โอกาส แล้วแต่โชคช่วย เศษแร่ทองที่ร่อนได้จะรวบรวมไปขายให้ร้านทองในตัวอำเภอ หรือไม่ก็จะรอให้มีคนของร้านทองออกมาหาซื้อถึงบ้าน แต่ไม่ได้ขายทุกวัน
แต่ในช่วงนี้ทองมีราคาแพงขึ้น ราคาทองมีราคาสูง ชาวบ้านหลายคนจึงหันกลับมาทำร่อนทองกันมากขึ้น ซึ่งช่วงนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลง ชาวบ้านก็มีโอกาสร่อนทองได้มาก ขายได้วันละหลายพันบาท โดยในแต่ละอาทิตย์จะมีพ่อค้าหรือคนของร้านทองในตัวเมือง เข้ามารับซื้อทองคำจากชาวบ้านที่บริเวณบ้านหาดเบี้ย และจุดอื่นๆ ในอำเภอปากชม โดยก่อนจ่ายเงินพ่อค้าจะจุดไฟเผาหลอม เพื่อแยกทองคำออกราคาซื้อขายกันเป็นกรัมแล้วแต่ราคาทองในแต่ละวัน ในช่วงนี้ได้สร้างรายได้ให้ชาวบ้านที่มาร่อนทอง เนื่องจากราคาทองคำราคาดีสุดที่เคยขายมา หากวันไหนโชคดีร่อนได้ทองมากก็เหมือนถูกหวย ขายได้เงินหลายพันบาท การร่อนทองคำต้องอาศัยโชคช่วย แต่ละวันเหมือนการเสี่ยงทาย บางครั้งก็อยู่ที่บุญและวาสนาของใครของมัน