เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2563 ได้เกิดฝนตกหนักและมีพายุฤดูร้อน ในพื้นที่ตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเลย สร้างความเสียหายบ้านเรือนประชาชน ถูกพายุพัดหลังคาปลิวว่อนเสียหายทั้งหลังจำนวน 2 หลัง และเล็กๆน้อยอยู่ระหว่างการสำรวจ โดยมีหลังคาปลิวว่อนยกทั้งแผลง พายุได้หอบข้ามบ้าน 2 หลังแล้วไปตกทับรถกระบะได้รับความเสียหาย พร้อมมีต้นไม้หักโค่นเป็นจำนวนมาก
นายสำรวย โสธรรมมงคล ม.6 บ้านโพนสว่าง ตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเลย เล่าว่า ขณะที่มีพายุพัดมและได้หอบเอาหลังคาเสียหายไปทั้งหลัง แม่ที่อยู่ในบ้านคนเดียว ตกใจจึงเป็นลมนอนเปียกอยู่พื้นบ้าน โดยหลังจากลมพัดหลังคาปลิวข้ามไปตกใส่บ้านชาวบ้านเสียหายอีก ตนจึงรีบวิ่งฝ่าพายุมาดูแม่ ที่อายุ 75 ปี แล้วก็มีฝนตกลงมาอย่าหนักนานกว่า 30 นาที บ้านของตนเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนเปียกทั้งหมด และชั้นล่างเป็นปูน น้ำไหลลงมาที่พื้นเปียกทั้งหมด ข้าวของเครื่องใช้ ได้รับความเสียหายทั้งหมด สังกะสีบ้านของตนได้ปลิวไปไกลมาก ข้ามบ้านที่อยู่ติดกันถึงสองหลัง แล้วไปตกลงระหว่างกลางบ้านหลังที่ 3และหลังที่ 4 และไปทับรถที่จอดอยู่บ้านเขาอีก
ส่วนนางวิรัตน์ จันทะวัน หมู่ 8 ตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเลย เปิดเผยว่า รอบนี้ พายุพัดหลังคาเปิดเป็นครั้งที่สอง หลังครั้งที่ผ่านมาเมื่อปี 2561 ตอนนั้นพายุได้พัดหลังคาเสียหายไปครึ่งหลัง รอบนี้หนักพัดหายไปทั้งหลัง โดยบ้านของตนเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ด้านบนไม่มีใครอยู่ ขณะพายุมา ตนอยู่ด้านล่าง พายุได้หอบเอาหลังคามากองลงกับพื้นข้างบ้าน โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บส่วนข้าวของเครื่องใช้ถูกน้ำฝนเสียหายหมด
หลังพายุสงบลงนายทินกร เกตุเกสร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชัยพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเลย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.ชัยพฤกษ์ กำนันผู้ใหญ่บ้าน เร่งสำรวจความเสียหาย เบื้อนต้นพบความเสียบ้านถูกพายุพัดหลังคาเสียหายทั้งหลัง จำนวน 2 หลัง และเสียหายบางส่วนอยู่ในระหว่างการสำรวจ และยังไม่มีรายงานประชาชนได้รับบาดเจ็บ