เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 เวลา 13 .00 น. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางถึงทางอากาศยานเลย จังหวัดเลย โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งบรรยายสรุปสถาการณ์ การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเลย หลังจากนั้นได้เดินทางไปตำบลน้ำสวย อ.เมือง จ.เลย โดยได้ตรวจเยี่ยมราษฎรหมู่ที่ 9 บ้านสูบ ที่ได้ประสบอุทกภัย พร้อมได้มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 300 ชุด ต่อจากนั้นได้เดินทางให้กำลังผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.น้ำสวย พร้อมกับเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง บ้านสูบหมู่ที่ 9 และหมู่ที่ 1 บ้านน้ำสวย และได้ตรวจเยี่ยมครัวพระราชทาน
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้เผยว่า ในอันดับแรกเลยที่มีพายุเข้ามา ในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบมีประมาณ 10 กว่าจังหวัด แต่ในส่วนจังหวัดเลยถือว่าหนักสุด และมีผลกระทบกับประชาชนที่มีผลข้างต้น ประมาณ 800 กว่า หลังคาเรือน หรืออาจจะมากกว่านี้ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจ ท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้ผม และปลัด ผู้ว่าราชการ ลงมาดูแลพี่น้องประชาชน ในขั้นต้นเป็นเรื่องที่จะเริ่มต้นที่จะปฎิบัติการกับสถานการณ์ ซึ่งจะมีการดูแลพี่น้องประชาชน เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้พระราชทานโรงครัวมาให้ ทั้งเรื่องของการกินอยู่ เรื่องน้ำดื่ม พร้อมกับเรื่องความปลอดภัย ทั้งไฟฟ้า ให้ช่วยประชาชนในเบื้อนต้นไปก่อน
ในตอนนี้น้ำได้ลดแล้ว ต่อจากนี้ไปต้องเป็นเรื่องของการสำรวจ และเร่งฟื้นฟู เพราะพบว่ามีความเสียหายไม่น้อยเลยเยอะมาก รวมทั้งการซ่อมแซมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน โดยจะได้แบ่งฝ่ายกันดูแล ทั้งในส่วนของทหาร ตำรวจ รวมทั้งฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งของอาชีวะที่จะมาช่วยกันซ่อมรวมทั้งภาคประชาชนด้วย โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านพระราชทานพระราโชบายว่า ต้องเร่งรีบในการดูแลพี่น้องประชาชน ให้ดำเนินชีวิตตามปกติได้
ในส่วนการใช้งบราชการจะมีของใช้ เช่นที่นอน หมอน มุ้ง โดยจะได้เร่งดำเนินการให้ แต่เรื่องของที่ทำกินมีแต่ได้พบว่า มีความเสียหายจำนวนไม่มาก แต่ที่เสียหายมากจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย มาวันนี้เป็นการมาให้กำลังในประชาชนและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ และมาวันนี้จะเห็นว่าป่าไม้ได้ถูกทำลายไป การตัดไม่ทำลายป่า ในพื้นที่ ซึ่งคาดการตัดไม้ทำลายป่าว่ามีมานานแล้ว แต่ต้องยอมรับว่า การตัดไม้ทำลายป่ามีผลกับน้ำท่วมอย่างแน่นอน รัฐบาลเองก็มีนโยบายอย่างแน่ชัดในเรื่องท้วงคืนผืนป่า และสิ่งที่สำคัญในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปีนี้ได้มีพระราชทานให้มีการปลูกป่าทุกจังหวัด และจะไม่เหมือนปลูกป่าที่ผ่านมาจะไม่เน้นจำนวนแต่จะปลูกแล้วต้องดูแลให้เกิดป่ามาให้ได้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าว