เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 63 ที่ศาลากลางจังหวัดเลย มีนางสาวสุกัญญา ปุริเส แม่ของเด็กนักเรียนชั้นป.5 โรงเรียนชมน้อย ต.ชมเจริญ อ.ปากชม จ.เลย เดินทางมาพร้อมกับญาติ ตาและยาย เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.เลย ว่า ลูกสาวขณะไปเรียนถูกภารโรงกระทำชำเราภายในโรงเรียน หลังผู้ปกครองทราบข่าวได้เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เชียงกลม ดำเนินคดี ต่อมาได้รับการประกันตัวจากศาล ได้ออกมาข่มขู่ จนเด็กและญาติต่างผวา จึงได้เดินทางขอความเป็นธรรม หลังจากนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ทราบลงมารับการร้องเรียน พร้อมสั่งการเร่งดำเนินคดีถึงที่สุด
นางสาวสุกัญญา ปุริเส แม่ของเด็ก ได้เล่าว่า ในเรื่องนี้เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 63 จากที่สังเกตุลูกสาวอายุ 11 ปี เรียนอยู่ ป.5 ร.ร.ชมน้อย เซื่อมซึมไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเดิม และมีเงินใช้ได้แอบไปฝากไว้กับพี่สาวข้างบ้าน และในวันที่ 21 ตุลาคม ทราบว่าได้เงินมาอีก จึงได้ซักถามว่าเอาเงินมาจากไหน และก็ได้บอกว่ามีภารโรงในโรงเรียนเอาเงินให้ใช้ และได้ซักต่อว่าเขาให้มาทำไม ทำไม่ต้องให้เงินตั้ง 340 บาทในครั้งแรก และครั้งที่ 2 อีก 300 บาท ซักลูกสาวอยู่นานตอนแรกไม่ยอมบอก มีแต่ร้องไห้ ก็เลยปลอบให้บอกมาเถอะลูก จนลูกสาวได้บอกว่า ภารโรงเรียกไปห้องพยาบาล และไปจับหน้าอกและข้างล่างด้วย จากนั้นใช้มือแย่เข้าในอวัยวะเพศและใช้ปากสัมผัส
ตนเองไม่แน่ใจกลัวลูกโกหกจึงได้นำลูกสาวไปตรวจที่โรงพยาบาล พบว่ามีการล่วงล้ำอวัยวะทางเพศแต่ยังไม่ถึงขั้นข่มขืน จากที่เกิดเรื่องนี้ภารโรงคนนี้ได้ข่มขู่ลูกสาวตั้งแต่ได้กระทำ ห้ามเด็กบอกผู้ปกครองแถมถ้าบอกจะฆ่าแม่และลูกสาวให้ตาย และห้ามบอกนักข่าว ตำรวจ หรือครูในโรงเรียน เราอยู่กันเพียง 2 คน พ่อของเด็กได้เลิกรากันไปแล้วกว่า 3 ปี หลังจากเกิดเหตุตนและญาติได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เชียงกลม ตำรวจได้จับดำเนินคดี ในข้อหากระทำชำเราเด็ก ต่อมาได้รับการประกันตัวออกมา ซึ่งผู้เป็นภารโรงมีบ้านอยู่ติดกัน อายุ 52 ปีแล้ว ก็ได้มาข่มขู่ ทั้งวาจา และทางเฟส ต่อว่าต่างๆนาๆรวมถึงญาติๆของเขา ว่าเราใส่ร้ายให้ลูกสาวไปหาเงิน ตนได้รับความอับอายและกลัว และตนในตอนเช้าต้องออกไปกรีดยางคนเดียว วันนี้กลัวถูกทำร้าย จึงได้เดินทางมาพร้อมญาติที่มีแต่คนแก่ มาพึงผู้ว่าราชการจังหวัดให้ช่วยเหลือ และภารโรงคนนี้ขณะนี้ได้ถูกพักงานแล้ว
ด้านนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้เผยว่า หลังจากได้รับฟังเรื่องราวแล้ว ตนได้โทรหาผู้กำกับ สภ.เชียงกลม ว่าให้เร่งดำเนินคดี เพราะผู้เสียหายได้รับการข่มขู่ หลังจากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว พร้อมให้ตั้งคดีเพิ่มขึ้นอีก ในเรื่องของการข่มขู่พร้อมกับให้ตำรวจดูแลความปลอดภัย ซึ่งถือว่าเป็นภัยร้ายแรงกับการกระทำกับเด็กอายุแค่ 11 ปี
ส่วนของเด็กผู้ถูกกระทำ ได้กล่าวกับนักข่าวทั้งน้ำตา ว่า หนูถูกกระทำ 2 ครั้ง ครั้งแรกให้เงิน 340 และครั้งที่ 2 เขาให้มา 300 บาท ครั้งแรกหนูไปถึงโรงเรียนตอนเช้า เจอกับภารโรงซึ่งก็รู้จักกันดี และเขาบอกว่าจะเอาเงินให้ แต่ห้ามไปบอกใคร เขาได้สัมผัสหน้าอกและด้านล่าง และหนูก็บอกว่าไม่เอาเงินแล้ว เขาก็บอกว่าถ้าไม่เอาเขาจะไปฆ่าแม่ หนูกลัวมาก และต่อมาเขาก็มาทำอีกในครั้งที่ 2 ห่างจากครั้งแรกหลายวัน ในครั้งที่ 2 เขาเอาลิ้นมาสัมผัสด้านล่าง แล้วเอาก็เอาตังให้อีกและได้บอกอีกว่าห้ามไปบอกใคร ถ้าตำรวจรู้ หรือครูและแม่จะไปฆ่าให้หมด และทราบว่าเพื่อนๆที่อยู่โรงเรียนเดียวกันก็ถูกกระทำเหมือนกัน ประมาณ 5-6 คน และเป็นที่ทราบภายในโรงเรียน
