จากกรณีนายเสกสรร แดงแปง อายุ 37 ปี ต.เมืองใหม่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ ขณะกำลังเดินทาง นำผู้ต้องหาส่งศาลจังหวัดเลย ได้กระโดดออกทางหน้าต่างรถของตำรวจ สภ.ปากชม บริเวณด่านปากภู ต.เมือง อ.เมือง จ.เลยและได้วิ่งหนีไปเข้าไปทางวัดอมรประสิทธิ์
ต่อมา พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.เลย ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน พร้อมกับสุนัขดมกลิ่น ออกปูพรมเพื่อติดตามค้นหาตลอดทั้งวัน ยังไม่พบผู้ต้องหาแต่อย่างไร จนกระทั้ง 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยุติการค้นหา แต่ยังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับ ชรบ.หมู่บ้าน ปกครองอำเภอเมือง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ตั้งจุดเฝ้าระวังไว้ประมาณ 5 จุด รอบๆที่เกิดเหตุ รัศมีประมาณ 1 กิโลเมตร และตามเส้นทาง ที่คิดว่าคนร้ายจะลักลอบออกได้
ล่าสุดเวลา 21.00 น.ของคืนวันที่ 20 เมษายน 64 ตำรวจสามารถตามจับกุมนายเสกสรร แดงแปง ได้แล้ว โดยได้เข้าหลบอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุไม่ถึง 300 เมตร โดยได้หลบซ่อนอยู่ใต้เตียงของเจ้าของบ้าน ในขณะเจ้าของบ้านจะเข้านอน พบว่ามีอะไรผิดปกติใต้เตียงนอน และชายคล้ายผู้ต้องสงสัย จึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ กลัวว่าจะเป็นผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนี ขณะกำลังแจ้งผู้ต้องหาได้วิ่งออกมาจากห้อง และได้หลบหนีไปทางหลังบ้าน จนเจ้าหน้าที่ได้ค้นหาจนพบ ขณะหลบหนีอยู่ในสวมกลางป่า ของบ้านผู้ใหญ่บ้าน และยังขโมยเสื้อเจ้าของบ้านสวมใส่อีกหนึ่งตัว เพื่อไว้หลบหนีต่อ
นางนภาพร ชัชวาลย์ ผู้ใหญ่บ้านสามแยก หมู่ที่ 3 เปิดเผยว่า หลังจากได้รับทราบว่ามีผู้ต้องหาหลบหนีเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ วันนี้ทั้งวันได้ออกค้นหาร่วมกับตำรวจแต่ก็หาตัวไม่พบ ในช่วงหัวค่ำตนจึงได้ประกาศผ่านหอกระจายข่าวว่า ให้ชาวบ้านระวังคนร้ายที่มีลักษณะ รูปร่างหน้าตา และสวมเสื้อผ้าตามที่ได้รับแจ้ง เกรงว่าคนร้ายจะเป็นอันตรายต่อลูกบ้าน แต่ช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ก็มียายบุญเลิศ แวงดินดำ อายุ 69 ปี และตาบุญกอง แวงดินดำ สองสามีภรรยา ที่มีบ้านห่างจากป้อมตำรวจประมาณ 300 เมตร ก็มาแจ้งว่าเจอชายลักษณะเดียวกันคนร้ายซ่อนใต้เตียงนอน และได้วิ่งหลบหนีออกไป และผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีเข้าบริเวณบ้านของตน ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้าน 2 ตายาย ตนก็โทรหาตำรวจก็ได้เข้าตรวจค้น ภายในบ้านและโกดังเก็บของ แต่ไม่พบ จนตรวจค้นในสวนหลังบ้าน พบว่าผู้ต้องหาได้เข้าหลบซ่อนในห้องน้ำเก่าที่ไม่ใช้แล้ว เจ้าหน้าที่จึงทำการจับมาตัวไว้ได้
เจ้าหน้าที่จึงได้เพิ่มข้อหาหลบหนีที่คุมขัง ระหว่างถูกควบคุมตามอำนาจพนักงานสอบสวน แก่นายเสกสรรค์ แดงแปง อีกกระทงหนึ่งด้วย ซึ่งก่อนเกิดเหตุ นายเสกสรรเป็นผู้ต้องหาขโมยรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่อำเภอปากชม 1 คัน ซึ่งก่อนจะมาก่อเหตุที่อำเภอปากชม ได้ก่อคดีลักทรัพย์ที่จังหวัดหนองบัวลำภู โดยได้ขโมยรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน จากการจับกุมตำรวจ พ.ต.อ. ตรีกฤษ จงวิไล ผกก. สภ.ปากชม ได้มอบเงินรางวัล 10,000 บาท ให้แก่นางบุญเลิศ ที่แจ้งเบาะแสคนร้ายให้ทางการ ตามที่ได้ประกาศให้รางวัลนำจับ
