เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมภูเรือ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเลย นายผดุงศักดิ์ หาญปรีชาสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นายอภิชาต สะบู่แก้ว ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกับในคนก่อสร้างของบริษัทอิตาเลียนไทย เพิ่มอีก 3 คน เป็นครอบครัวเดียวกันหมด รวมจังหวัดเลยพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ในระลอกของเมษายน มีผู้ป่วยสะสม 83 ราย รักษาหายแล้ว 63 ราย ยังรักษาอยู่ 20 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องติดตามผลทั้งหมด 134 ราย
นายอภิชาต สบู่แก้ว เผยว่า พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 81,82 และ 83 ของระลอกเดือนเมษายน ซึ่งทั้ง 3 ราย ติดเชื้อจากแคมป์คนงานอิตาเลียนไทย แจ้งวัฒนะ กทม. โดยผู้ป่วยรายที่ 81 เป็นชายไทย อายุ 51 ปี อาชีพรับจ้าง เป็นบิดาของของผู้ป่วยรายที่ 79 อยู่ที่ บ้านหนองผำ ต.นาดินดำ อ.เมือง พบมีประวัติเสี่ยงคือ ทำงานอยู่ในแคมป์คนงานก่อสร้าง ที่บริษัท อิตาเลียนไทย กรุงเทพมหานคร และผู้ป่วยรายที่ 82 เป็นหญิงไทย อายุ 50 อาชีพแม่บ้าน ภรรยารายที่ 81 มารดารายที่ 79 ส่วนผู้ป่วยรายที่ 83 ชาย อายุ 2 ปี 10 เดือน เป็นบุตรชายผู้ป่วยรายที่ 79 ทั้งเป็นครอบครัวเดียวกัน และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับครอบครัวนี้มีทั้งหมด 12 ราย รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 2 ราย สัมผัสเสี่ยงต่ำ 3 ราย จากการตัดไหมเปลือกตา ผู้ป่วยรายที่ 79 ซึ่งอยู่ระหว่างการกักตัวและรอผลการตรวจหาเชื้อ
และในขณะนี้ทางจังหวัดเลย ได้ให้เข้มงวดโดยให้ทางเจ้าหน้าที่ 5 ทหารเสือ ซึ่งมี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่สาธารสุข และ อสม.ในพื้นที่ ได้ตั้งด่านเข้มงวดตรวจการเข้าออกในหมู่บ้าน อาจจะมีผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงสูง อาทิ แคมป์คนงานก่อสร้างของบริษัทอิตาเลียนไทย และกลับจากการขายลอตเตอรี่ แต่ที่สำคัญคือ ผู้ที่เดินจากพื้นที่เสี่ยงต้องมารายงานตัวเพื่อประเมินความเสี่ยง ผู้ที่เดินทางกลับมาจะต้องรายงานตัวทุกคน ตามมาตรการของจังหวัดอย่างเคร่งครัด หากกลับมาแล้วไม่รายงานตัวทราบทีหลังจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ส่วนกรณีผู้ป่วยติดเชื้อรายที่ 80 ซึ่งเป็นชายชาวสปป.ลาว ได้ขึ้นรถโดยสารประจำทางของบริษัทแอร์เมืองเลย กลับมาจาก กทม. เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ติดตามผู้โดยสารบนรถทั้ง 19 ราย รวมถึงคนขับรถแท็กซี่ ขณะนี้ทราบรายชื่อหมดแล้ว และได้กระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ ได้ให้เจ้าหน้าที่ออกติดตาม และอยู่ในขั้นตอนกระบวนการสอบสวนประเมินความเสี่ยงและการนัดตรวจหาเชื้อ และในส่วนสถานที่กักตัวบ้านนากระเซ็ง อ.ท่าลี่ จ.เลย และด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำความสะอาด และฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อ ในพื้นที่ทั้งหมดแล้ว