เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีรัฐบาลได้มีคำสั่งปิดแคมป์คนงานทั้งไทย และแรงงานต่างชาติในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ทำให้แรงงานต่างทยอยเดินทางกลับต่างจังหวัด จังหวัดเลยโดยนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลย ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดเลย ได้คำสั่งด่วนถึงนายอำเภอทั้ง 14 อำเภอ พร้อมกับเจ้าหน้าที่สาธารณะสุข อสม.ในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจเข้าหมู่บ้าน พร้อมเข้มงวดตรวจสอบ และต้องมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ภายใน 3 ชม.เมื่อเข้าพื้นที่ ผู้ฝ่าฝืนให้ดำเนินคดีถึงที่สุด
นายชัยธวัช เนียมศิริ เผยว่า จังหวัดเลยได้มีการเตรียมการการป้องกันโรคระบาดของไวรัสโควิด 19 และจากประเด็นร้อนในเรื่องการเคลื่อนย้ายของแรงงานกับภูมิลำเนา หลังจากที่รัฐบาลมีคำสั่งปิดแคมป์คนงาน ในพื้นที่ กทม. ในเรื่องนี้หลังทราบคำสั่งได้มีการบริการจัดการ ให้นายอำเภอทั้ง 14 อำเภอ เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขอให้นายอำเภอทุกอำเภอตั้งจุดตรวจ จุดสกัด พร้อมกับการคัดกรองที่จะเข้าพื้นที่อย่างเข้มข้นที่สุด รวมให้ อสม. หรือ 5 ทหารเสือ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขอำเภอ ต้องเข้มแข็งและออกทำงานให้หนัก
ซึ่งในประกาศจังหวัด ผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงต้องมารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน หากพี่น้องท่านกลับมาในพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ใช้แรงงาน ขอให้บอกหรือพามาพบกับเจ้าหน้าที่ เพื่อมารายงานตัวทันที จึงขอความร่วมมือหากเกิดการผิดพลาดขึ้นมาจะเกิดการแพร่ระบาดอาจจะควบคุมไม่อยู่ และในกรณีผู้ที่มาถึงหากไม่มารายงานตัวภายใน 3 ชม. หากเราทราบหรือพบทีหลังทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีในทันที และหากมีการติดเชื้อได้นำเชื้อเข้าระบาดในพื้นที่ทางสังคมก็จะลงโทษอย่างรุนแรง
ในเรื่องนี้ทางจังหวัดจึงของให้แรงงาน ที่กลับมาเข้าพื้นที่ขอให้เข้ามารายงานตัว และเปิดไทมไลน์ที่แน่นอน ต่อเจ้าหน้าที่ที่จะได้คัดกรองให้ถูกต้อง ส่วนคนที่มาและมาปกปิดข้อมูลหรือไทม์ไลน์ หาดติดเชื้อขึ้นมาต้องให้เจ้าหน้าที่ หรือนายอำเภอแจ้งความดำเนินคดีซึ่งมีโทษถึงจำคุก วันนี้หากมีการปกปิดไทม์ไลน์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในการสอบสวนโรค ส่วนแรงงานที่กลับมาแล้วและมีการสอบสวนโรค และมีการเคลื่อนย้ายที่มีการระบาดในแคมป์คนงาน ต้องนำตัวไปตรวจหาเชื้อทุกคน 100 % ทันที กับโรงพยาบาลใกล้บ้าน