เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมโรงเรียนเชียงคาน อำเภอเชียงคาน นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วยนายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ ปลัดจังหวัดเลย ว่าที่ร้อยตรี นครชัย แสงมณี นายอำเภอเชียงคาน ร่วมประชุมกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการ ร้านค้า โรงแรมที่พัก ในเขตอำเภอเชียงคาน เพื่อเตรียมการรับนักท่องเที่ยว ตามแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเลย เพื่อเปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว “พื้นที่สีฟ้า” โดยเฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลตำบลเชียงคาน และชุมชนตามแหล่งท่องเที่ยวจะได้รับวัคซีนครบ 100%
นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เผยว่า เชียงคานเป็นเมืองหนึ่งที่นักท่องเที่ยว ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 อำเภอเชียงคาน ซึ่งมีประชากรทั้งสิ้น จำนวน 60,728 คน และมีเป้าหมายทุกคนต้องรับการฉีดวัคซีนไม่น้อยกว่า 70% ดังนั้นในวันที่ 1 พ.ย. 64 จังหวัดเลยจะเริ่มเปิดฤดูการรับนักท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดจังหวัด จึงได้มีการเตรียมพร้อมทั้งสถานที่ ผู้ประกอบการทั้งในด้านที่พัก ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผู้ประกอบการ ร้านขายของที่ระลึกทั่วไป รวมถึงหาบเร่แผงลอย มาเตรียมความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาเที่ยวในอำเภอเชียงคาน
โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลเชียงคาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ขณะนี้ทางจังหวัดเลยได้จัดคู่มือให้ในการปฏิบัติงาน การเปิดโรงแรมการทำธุรกิจโรงแรม คู่มือการทำร้านอาหารในการค้าขาย สำหรับพี่น้องประชาชนที่อยู่จังหวัดอื่น ที่มีความประสงค์ที่จะมาเที่ยวอำเภอเชียงคาน ขอยืนยันว่าจังหวัดเลย มีการเตรียมความพร้อมผู้คนหรือประชากร ในเขตเทศบาลตำบลเชียงคานจะได้รับวัคซีนครบ 100% และคนในพื้นที่อำเภอเชียงคานต้องได้รับวัคซีนมากกว่า 70%
นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเลย โดยมีเงื่อนไขอยู่ 3 ข้อคือ ฉีดวัคซีนครบแล้ว 2 เข็ม ให้แสดงกับทางเจ้าหน้าที่ สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วก็จะสามารถเดินทางเข้าจังหวัดเลยได้ 2.สำหรับผู้ที่รับการฉีดวัคซีนไม่ครบ 2 เข็ม ให้นำผล RT-PCR หรือการแสดงผลการตรวจ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง มาแสดงก็สามารถเดินทางเข้าจังหวัดเลยได้ สำหรับผู้ที่ไม่มีเอกสาร หรือไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ให้รายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่ จะมีเจ้าหน้าที่ทำการตรวจหาเชื้อ ATK หรือวิธีRT- PCR ในกรณีไม่พบเชื้อก็สามารถเดินทางเข้าจังหวัดเลยได้ สำหรับผู้ที่พบเชื้อ ทางจังหวัดเลยก็มีสถานที่ ที่จะรองรับให้กับผู้ป่วย ในการดูแลรักษาตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข