จากกรณีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ตำรวจ ปกครอง ให้เข้มงวดการจับกุมมือเผาป่า และเผาอ้อย รวมทั้งการขนส่งขนอ้อยที่เผา มีเศษฝุ่นปลิวว่อนสร้างความรำคาญกับผู้สัญจร ให้จับและดำเนินคดี ทั้งจำทั้งปรับ จนถึงที่สุดแห่งคดี หลังจากที่ชาวบ้านได้ลักลอบเผาอ้อย เร่งส่งเข้าโรงงานน้ำตาล ก่อนที่โรงงานจะปิดหีบอ้อยในกุมภาพันธ์ และบางจุดได้ลุกลามไหม้เข้าไปในป่า ทำให้เกิดหมอกควันปกคลุมทั้งเมือง ชาวบ้านต่างผจญกับทั้งเศษฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 และขี้เถ้าของใบอ้อยหรือหิมะดำ ลอยปลิวว่อนในอากาศ สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนทั้งจังหวัด
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติคุณ บุตรคุณ นายอำเภอเมืองเลย หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีผู้จุดไฟเผาอ้อยบริเวณบ้านปากหมาก ม.7 และบ้านท่าวังแคน ม.9 ต.ศรีสองรัก จึงได้ให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเลย และผู้ปกครองท้องที่ ร่วมกับเจ้าพนักงานท้องถิ่น อบต.ศรีสองรัก เข้าตรวจสอบพื้นที่
พบว่ามีพื้นที่ถูกไฟไหม้เป็นไร่อ้อยแปลงที่ 1 เนื้อที่ประมาณ 2 งาน และอีกจุดเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ขณะเข้าตรวจสอบพบชายไทย ทราบชื่อนายทองสุข หมื่นวัน ชาวจังหวัดอุดรธานี เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้มีอาการตกใจ และจะหนี เจ้าหน้าที่จึงจับตัวไว้ และสอบถาม นายทองสุข จึงได้สารภาพตัวมารับจ้างตัดอ้อย และได้เผาไร้อ้อยทั้ง 2 แห่งเอง เพื่อจะได้ตัดอ้อยง่ายและทันส่งโรงงาน
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา กระทำความผิด ตาม พรบ. สาธารณสุข พ.ศ.2535 ม.28/1 ข้อหาไม่ปฏิบัติตามประกาศ อบต.เรื่องกำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุน่ารำคาญ พ.ศ.2561 ตามข้อ 2 ห้ามเผาไร่ เศษหญ้าและวัชพืช หรือกระทำการด้วยวิธีการอื่นใดในพื้นที่การเกษตร ซึ่งก่อให้เกิดกลิ่น ควัน ฝุ่นละอองหรือเหตุเดือดร้อนรำคาญใดๆ จึงนำผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย ดำเนินคดีต่อไป