เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสมจิตร สุธงษา อายุ 68 ปี และนางมยุรี สุธงษา ลูกสาว อยู่ หมู่ 7 ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย ได้ขอลงบันทึกประจำวันกับ ร้อยเวร สภ.ภูเรือ อ.ภูเรือ จ.เลย ว่าได้ว่า ถูกพนักงาน ธ.ก.ส.สาขาภูเรือ ได้แอบถอนเงินที่ฝากในบัญชี 9 ครั้งสูญเงิน 2,601,000 บาท เกือบหมดบัญชี หลังมีการตรวจสอบ พบเป็นพนักงานหญิง แอบถอนไปใช้ และว่าจะรับใช้แต่เงียบ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน
นางมยุรี สุธงษา ลูกสาวผู้เสียหาย เผยว่า แม่และครอบครัวมีอาชีพเป็นเกษตรกร ปลูกไม้ดอกไม้ประดับขายที่อำเภอภูเรือ และได้เงินมาก็นำไปฝากกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือ ธ.ก.ส. สาขาภูเรือ และในช่วงต้นปีใหม่ เดือนมกราคม แม่ของตนไปธนาคาร พบว่าธนาคารให้เปลี่ยนเล่ม แม่ของตนจึงได้ขอพบผู้จัดการ เดิมสมุดบัญชีเป็นเล่มสีแดง เงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค ถูกเปลี่ยนเป็นเงินฝากออมทรัพย์เล่มสีเขียวแทน เล่มเดิมไม่สามารถใช้ได้แล้ว จึงขอตรวจสอบพบว่า บัญชีมีการถอนเงินจำนวน 9 ครั้ง
ครั้งแรกวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ถอนไป 40,000 บาท ครั้งที่ 2 วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 เวลา 11.26 น. ถอนไป 100,000 บาทถ้วน ครั้งที่ 3 วันที่ 6 กรกฎาคม 2564 เวลา 14.57 น. ถอนไป 75,000 บาท ครั้งที่ 4 วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 เวลา 14.48 น. ถอนไป 29,000 บาท ครั้งที่ 5 วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 เวลา 12.02 น. ถอนไป 78,000 บาท ครั้งที่ 6 วันที่ 3 สิงหาคม 2564 เวลา 15.13 น. ถอนไป 321,400 บาท ครั้งที่ 7 วันที่ 9 สิงหาคม 2564 เวลา 14.32 น. ถอนไป 60,000 บาท , ครั้งที่ 8 วันที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลา 15.04 น. ถอนไป 1,800,000 บาท และครั้งที่ 9 วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เวลา 15.12 น. ถอนไป 98,000 บาท รวมจำนวน 2,601,000 บาท (สองล้านหกแสนหนึ่งพันสี่ร้อยบาทถ้วน)
ตรวจสอบพบว่า เป็นพนักงานหญิงรายหนึ่ง ทำให้แม่รู้สึกตกใจและเครียดมาก ต่อมาพนักงานหญิงคนดังกล่าวก็มายอมรับว่าเป็นคนทำเอง และรับปากว่าจะขายธุรกิจหอพักมาชดใช้ให้ภายใน 1 เดือน แต่จนกระทั่งถึงเดือนกุมภาพันธ์แล้ว ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ยังไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว ซึ่งตลอดระยะเวลาหลังจากที่ทราบว่าเงินหาย แม่ก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับ สุขภาพย่ำแย่ลง เสียดายเงินที่เก็บหอมรอมริบ ทำงานหนัก เหน็ดเหนื่อย เพาะไม้ดอกไม้ประดับหน้าบ้านขายมานานหลายปี
ส่วนด้านนายศิริชัย สันต์สัมพันธ์กุล ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดเลย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์นี้ ทางธนาคารได้ทราบความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากบัญชี จึงได้ตั้งกรรมการสอบข้อเสอบสวนพนักงานที่ทำความเสียหายให้กับทางธนาคาร โดยให้พักงานจากหน้าที่เดิม มาทำงานที่สำนักงานธ.ก.ส.จังหวัด ซึ่งตอนนี้ ได้สอบเสร็จแล้ว และได้ส่งข้อเท็จจริง รายงานไปยังธ.ก.ส.สำนักงานใหญ่ เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง
ความเสียหายที่เกิดขึ้น ทางธนาคารจะรับผิดชอบทุกอย่าง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเยียวยา คาดว่าอีก 2 วันคณะกรรมการจะได้พิจารณาความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมกับคืนเงินให้กับผู้ที่เสียหาย ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เพราะเงินที่ฝากกับ ธ.ก.ส. ตอนนี้ ยังไม่ได้ถอนออกไป ธนาคารก็ยังถือว่าเป็นเงินฝากอยู่แล้ว ส่วนของบทลงโทษของพนักงานที่กระทำผิดนั้น ทางธนาคารมีระเบียบกำหนดไว้อยู่แล้วโดยเฉพาะพนักงานของธนาคาร ที่เป็นหน่วยงานของรัฐนั้นจะมีโทษหนักกว่าประชาชนทั่วไป นายศิริชัย กล่าว
