เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุสรณ์ มณีแดง ผบ.เรือนจำจังหวัดเลย เผยว่า ขณะนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ทางเรือนจำจังหวัดเลย พบว่า ขณะนี้ทางเรือนจำจังหวัดเลยมีผู้ต้องขังอยู่ประมาณ 1,200 คน ซึ่งก่อนหน้านี้มีอยู่ 2,700 คน เนื่องเกิดภาวการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 จึงได้มีการแบ่งผู้ต้องขังไปอยู่เรือนจำอื่นๆ เนื่องจากด้วยกระบวนการของเรือนจำ ได้มีการป้องกันการแพร่เชื้ออย่างเข้มข้น โดยการขังผู้ต้องขังมาต้องถูกกักตัวก่อน 21 วัน พร้อมกับมีการตรวจหาเชื้อ และก่อนปล่อยตัวต้องนำผู้ต้องขัง กักตัวตรวจหาเชื้อก่อนออก 14 วัน เมื่อไม่พบเชื้อถึงปล่อยออกไป ส่วนผู้ต้องขังด้านในก็จะมีการสุ่มตรวจเป็นระยะๆ
แต่การตรวจพบเชื้อในเรือนจำ เริ่มจากจะมีการปล่อยตัวผู้ต้องขัง ได้นำมากักตัวและมีการตรวจหาเชื้อด้วย ATK พบว่า มีผลเป็นบวก จากนั้นจึงได้ระดมเจ้าหน้าที่และแจ้งทาง สสจ.เลย และโรงพยาบาลเลย เข้ามาตรวจ โดยแบ่งและคัดแยกผู้ต้องขังชาย ผู้ต้องขังหญิง และผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ออกจากกัน โดยเบื้องต้นพบว่า มีผู้ต้องขังติดเชื้อไปแล้วจำนวน 181 ราย ขณะได้ทำการรักษาโดยให้กินยาฟาวิพิราเวียร์ ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อยังไม่มีอาการ โดยผู้ติดเชื้อโควิด 19 เป็นผู้ต้องขังชายทั้งหมด ส่วนผู้ต้องขังหญิงไม่พบการติดเชื้อ และคาดว่าอาจจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม เพราะจาการสอบสวนโรค มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 100 ราย
หลังจากที่ทางเรือนจำ พบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด 19 พร้อมกับได้รายงานให้นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ท่านให้ทางเรือนจำเร่งตั้งศูนย์ CI ในเรือนจำขึ้น โดยตั้งเป็น 2 ศูนย์ แบ่งศูนย์ CI ชายและหญิง โดยศูนย์ CI ชาย ตั้งอยู่เรือนนอน 1 จะรองรับผู้ป่วยติดเชื้อได้จำนวน 300 เตียง แต่สามารถขยายได้ถึง 400-500 เตียง และศูนย์ CI หญิงจำนวน 106 เตียง และในวันที่ 22 ก.พ. ทาง สสจ.เลย และโรงพยาบาลเลย จะลงตรวจผู้ต้องขังทั้งเรือนจำอีกครั้ง
ส่วนญาติของผู้ต้องขัง ขณะนี้ทางเรือนจำของดการเยี่ยมและงดฝากของ ทุกกรณี และรับรองจะดูแลและให้การรักษาอย่างดี ทางญาติไม่ต้องห่วง ขณะนี้ทางคณะแพทย์โรงพยาบาลเลย ได้เข้ามาจัดการเรื่องการตั้งศูนย์ CI โดยจะมีการเอกซเรย์ ผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ และจะทำให้เรือนจำปลอดเชื้อให้เร็วที่สุด นายอนุสรณ์ ผบ.เรือนจำ กล่าว