เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 63 ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การปฏิบัติการ เพื่อควบคุมพื้นที่ไฟไหม้ป่าสนบนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง และฟังรายงานพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายการเหตุการณ์ โดยได้นำเจ้าหน้าที่ปกครอง นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง อพปร. ทหาร เดินขึ้นภูกระดึงถึงซำแฮก เพื่อสำรวจและรับฟังรายงานสถานการณ์บนภูกระดึง และนำกำลังปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ที่ผจญเพลิงตลอดทั้งคืน
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เผยว่า หลังจากได้ฟังรายงานสถานการณ์ด้านบนภูกระดึงไฟได้ดับแล้ว เหลือแต่แนวไฟที่ผ่านไปแล้ว แต่ยังเหลือไฟที่สุมขอนยังติดไฟอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งดับให้หมด โดยได้แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดดับเพลิงอยู่ด้านบนและด้านล่างให้ระดมกำลังเพื่อเตรียมสถานการณ์หากไฟประทุขึ้นอีกรอบ ในส่วนสาเหตุที่เกิดไฟ เกิดขึ้นระยะความสูงประมาณ 700 เมตร ซึ่งยังอยู่ในเขตอุทยาน จากจุดที่ไฟไหม้เริ่มจากจุดนิดเดียว แต่เนื่องจากเกิดประกายไฟได้เกิดลมแรงมาก เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบริเวณต้นไฟ พยายามดันไฟให้ออกจากแนวกันไฟ แต่มีลมแรงมากได้เกิดลูกไฟกระเด็นข้ามแนวกันไฟจึงทำให้เกิดไฟลามลุกไหม้เป็นบริเวณกว้าง ถึงมีเจ้าหน้าที่ที่ลาดตระเวนที่พบจุดเกิดเหตุมี 12 คน จึงไม่อาจควบคุมไฟได้ จึงได้ขอกำลังสบับสนุนเพิ่มกว่า100 นาย มาดับไฟและสามารถควบคุมไฟได้ประมาณตี 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ผจญเพลิงไม่ได้พักผ่อนกัน เราจึงจะนำกำลังเพื่อไปสับเปลี่ยนกำลังเจ้าหน้าที่ที่ได้ผจญเพลิงได้พัก
โดยผมพร้อมคณะจะเดินขึ้นภูกระดึงถึงซำแฮก เพื่อจะรับรายงานสถานการณ์กับเจ้าหน้าที่ที่ผจญเพลิง หัวหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงนายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ ซึ่งทางทหาร และอพปร. ท้องถิ่นอาสา ได้นำกำลังมาช่วยและสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงเมื่อวานที่ผ่านมายังไม่นอนกัน จากแนวไฟที่ผ่านไปแล้วหรือเรียกว่าแนวดำ และตอไม้ที่ติดไฟกำลังคุกรุ่นต้องควบคุมให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดประกายไฟอีกครั้ง ส่วนพื้นที่เสียหายมี 2 แปลง แปลงหนึ่งประมาณ 1,000 ไร่ และอีกแปลง2,000 กว่าไร่
ด้านนักท่องเที่ยวนายพงศกร. สุขภูสงค์ จากจ.นนทบรี เผยว่า ในขณะเกิดเพลิงไหม้พวกตนได้เดินเที่ยวที่ผาหล่มสัก จะเดินกลับเต็นท์ได้เห็นไฟไหม้โหมแรงมาก มาจากหลังแปร ตรงผาหมากดูก พวกตนตกใจมากทั้งเปลวไฟและมีลมกระโชกแรงมาก รีบเดินเพื่อมามาถึงเต็นท์ ไฟยังได้ตามมาเกือบถึงที่กางเต็นท์เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันดับไฟ ทั้งนักท่องเที่ยว ลูกหาบ พ่อค้าแม่ค้า ต่างช่วยกันดับไฟ ทำให้ไฟไม่ได้ลามเข้าถึงเต็นท์ที่พักนักท่องเที่ยว ไฟไหม้ห่างจากที่พักประมาณ 500 เมตรก็จะถึงที่พัก ที่คิดๆกันการเกิดเพลิงไหม้น่ามาจากการกระทำของมนุษย์ หรืออาจจะเป็นเรื่องของการทิ้งก้นบุหรี่ ทางอุทยานน่าจะจัดสถานที่ให้สูบให้ทิ้งก้นบุหรี่ให้เป็นที่เป็นทาง เวลาเดินป่าไม่ควรให้สูบ
