เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อำเภอภูกระดึง จ.เลย นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พี่น้องประชาชนชาวอำเภอภูกระดึง ได้ร่วมจัดงานประเพณี สักการะพระพุทธเมตตา บูชาเจ้าปู่ภูกระดึง คีตกาลแห่งขุนเขาสืบสานตำนานภูกระดึง ตามความเชื่อว่าภูกระดึง เป็นดินแดนของรุขเทวดา นางฟ้า สิงสถิตอยู่บนภูกระดึง ตามตำนานเล่าขานกันมา
โดยมีนายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานเปิดงาน มีนายกิตติคุณ บุตรคุณ ปลัดจังหวัดเลย นายธรรมนูญ ภาคธูป ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 5 (อพท.5) พร้อมกับหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน นักท่องเที่ยว ร่วมพิธีเปิด กับนางรำ 54 หมู่บ้านกว่า 2,000 คน รำถวายบูชาเจ้าปู่ภูกระดึง พร้อมกับขบวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต่างแต่งตัวเป็นเทวดา นางฟ้า ในคืนวันที่ 5 พ.ย ที่ผ่านมา ภายในงานจะพิธีสำคัญ การโยงสายสิญจน์อัญเชิญพระพุทธเมตตาลงจากยอดภูกระดึง มายังศาลาพระพุทธเมตตาจำลอง หน้าที่ว่าการอำเภอภูกระดึง ระยะทาง 14-15 กม เพื่อให้ประชาชนได้สักการะ และการทำพิธีบวงสรวงบูชาปู่ภูกระดึง
นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง ได้เผยว่า การจัดงาน “สักการะพระพุทธเมตตาบูชาเจ้าภูกระดึง” คีตกาลแห่งขุนเขาสืบสานตำนานภูกระดึง ชาวภูกระดึงมีความเชื่อในตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมาว่า เมื่อปี 2348 มีพรานป่าผู้หนึ่ง เดินทางมาจากนครจำปาศักดิ์ รอนแรมมาหลายวัน พบพื้นที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การตั้งบ้านเมือง พรานป่าจึงเดินทางกลับบ้าน แล้วอพยพครัวครอบและญาติพี่น้องมาตั้งรกรากแล้วตั้งชื่อว่า “หมู่บ้านท้ายเมือง” หรือ บ้านผานกเค้า ปัจจุบัน
ครั้นหนึ่ง นายพรานออกตามล่ากระทิงโทนที่ปราดเปรียว เป็นเวลาหลายวัน จนกระทั่งถึงเชิงเขาลูกหนึ่ง พบรอยเท้าที่ใหญ่ และหนักของกระทิง นายพรานได้แกะรอยตามอย่างไม่ลดละ จนขึ้นมาถึงยอดเขา ภาพที่เห็นทำให้ถึงกับตะลึง เพราะพื้นที่บนยอดเขานั้น ราบเรียบและกว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยเหล่าสัตว์ป่านานาชนิด ทั้งกระทิง เก้ง กวาง และช้างป่า หากินกันอยู่เป็นฝูงๆ สัตว์เหล่านั้นไม่ได้ตกใจ หรือตื่นกลัวนายพรานเลย แม้ไม่เคยเห็นคนมาก่อน ส่วนนายพรานเองก็ไม่กล้าที่จะยิงสัตว์เหล่า นั้นเพราะเชื่อว่า ภูเขายอดตัดที่เห็นนั้นต้องเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จึงได้กลับลงมาและบอกเล่าเรื่องราว ที่ได้ไปพบเจอมาให้เพื่อนบ้านฟัง เรื่องราวจึงถูกเปิดเผยตั้งแต่นั้นมา
และสมัยที่ภูเขาลูกนี้ยังไม่มีชื่อ ก็มีตำนานเล่ามาว่า มีเสียงระฆังดังมาจากบนภูเขา ชาวบ้านเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “หมู่บ้านผีบังบด” ซึ่งเป็นหมู่บ้านของมนุษย์จำพวกหนึ่งที่เราไม่สามารถจะเห็นตัวของเขาได้ เมื่อเข้าใกล้หมู่บ้าน ทั้งหมู่บ้านก็จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นป่าทันที และทุกวันพระจะมีเสียงกระดิ่ง กระดึง หรือบางคนได้ยินเป็นเสียงระฆังบ้าง จนกล่าวกันว่า เป็นเสียงของ พระอินทร์ทำพิธีกรรม กับรุขเทวดา จนชาวบ้านกล่าวเป็นชื่อเขานี้ว่า “ภูกระดิ่ง” ต่อมาเรียกและเพี้ยนมาเป็น “ภูกระดึง” จนถึงปัจจุบัน